ในทวีปอัฟริกา การใช้สมุนไพรเพื่อรักษาโรคเป็นสิ่งที่ทำกันมานานนับพันปีแล้ว ทุกวันนี้ สมุนไพรที่ชาวอัฟริกันใช้อยู่ถือว่ามีค่ายิ่งกว่ายาแผนตะวันตก จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลก พบว่าประชากรประมาณ 70% ของประชาชนในทวีอัฟริกาใช้การแพทย์แผนโบราณเพื่อการรักษาโรค ดังนั้น จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมการแพทย์แผนจีน (Traditional Chinese Medicine) TCMจึงได้รับความสนใจจากประชาชนในทวีปอัฟริกาเป็นจำนวนมากขึ้นอย่างรวดเร็ว
ในประเทศอัฟริกาใต้มีคลีนิกแพทย์แผนจีนมานานกว่า 30 ปีแล้ว และเป็นประเทศหนึ่งในทวีปอัฟริกาที่ตลาดการแพทย์แผนจีนได้รับการพัฒนาขึ้นเป็นอย่างมากตามลำดับ โดยมีการนำการแพทย์แผนโบราณมาใช้เสริมร่วมกับการแพทย์แผนปัจจุบันและยังมีกรอบการดูแลในด้านกฎหมายไว้รองรับอีกด้วย
เมื่อปี 2553 รัฐบาลของประเทศอัฟริกาใต้ได้เริ่มกระบวนการเกี่ยวกับการแพทย์แผนโบราณรวมทั้งการฝังเข็ม นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แพทย์แผนจีนก็ได้รับการควบคุมจากสภาพันธมิตรผู้ปฏิบัติงานด้านสุขภาพ (Allied Health Practitioners Council) ซึ่งมีหน้าที่รายงานต่อกระทรวงสาธารณสุข ในขณะที่การแพทย์แผนจีนได้รับการควบคุมภายใต้กฎระเบียบการแพทย์เสริมภายใต้กฏหมายระเบียบผลิตภัณฑ์สุขภาพของประเทศอัฟริกาใต้ด้วย
เพื่อความอยู่รอด
อุตสาหกรรมการแพทย์แผนจีนในประเทศอัฟริกาใต้มีความเจริญก้าวหน้าขึ้นด้วยการสนับสนุนจากรัฐบาล และสามารถหาได้ง่ายและเข้าถึงได้ง่ายทั่วทั้งประเทศ และเนื่องจากผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับแพทย์แผนจีนผุดขึ้นมากมายเป็นดอกเห็ด ทำให้มีคำถามในเรื่องของคุณภาพผลิตภัณฑ์ ดังนั้น มาตรฐานสากลจึงมีความสำคัญมากกว่าที่เคยเป็นมา ไอเอสโอจึงได้พัฒนามาตรฐานการแพทย์แผนจีนโดยคณะกรรมการวิชาการ ISO /TC 249, Traditional Chinese Medicine และสถาบันมาตรฐานแห่งชาติของประเทศอัฟริกาใต้ (South African Bureau of Standards: SABS) เป็นประเทศที่มีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในคณะกรรมการวิชาการดังกล่าวซึ่งดำเนินการพัฒนาหลายมาตรฐานรวมทั้งผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับการแพทย์แผนจีนที่มาจากขั้นตอนวัตถุดิบและขั้นตอนการผลิต
เมื่อปี 2556 (ค.ศ.2013) SABS เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะทำงาน ISO /TC 249 ที่ประเทศอัฟริกาใต้โดยมีผู้เชี่ยวชาญการแพทย์แผนจีนจำนวน 180 คนจากทั่วโลกเข้าร่วมประชุม ทำให้ได้รับข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนามาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับการแพทย์แผนจีน
ความต้องการของตลาด
การสร้างการแพทย์แผนโบราณมีความเป็นมาที่ยาวนานและต้องอาศัยความรู้ทั้งตามแบบแผนโบราณและสมัยใหม่เพื่อสร้างความมั่นใจใน ความปลอดภัยและมาตรฐานด้านประสิทธิภาพ ซึ่งไม่ใช่งานที่ง่ายเลยและหากจะทำให้พร้อมสมบูรณ์ก็จำเป็นต้องใช้เวลาและการเตรียมการที่ดี อย่างไรก็ตาม มาตรฐานไอเอสโอที่เกี่ยวข้องกับการแพทย์แผนจีน ไอเอสโอได้ให้ความสำคัญกับประเด็นต่างๆ ดังนี้
- ความมั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการเกี่ยวกับการแพทย์แผนจีน
- การพัฒนาความปลอดภัยของคนไข้และการตอบสนองความต้องการของคนไข้รวมทั้งข้อกำหนดที่เกี่ยวข้อง
- การอำนวยความสะดวกการใช้งานเกี่ยวกับการแพทย์แผนจีนในวิถีที่เป็นวิทยาศาสตร์ ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
- ความสอดคล้องกับกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง
- การสนับสนุนธุรกิจอุตสาหกรรมการแพทย์แผนจีนและการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ
ประเทศอัฟริกาใต้เห็นความสำคัญของมาตรฐานไอเอสโอว่าจะเป็นการส่งเสริมอนาคตอุตสาหกรรมการแพทย์แผนจีนและเป็นก้าวสำคัญในการสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศและทวีปอัฟริกา ในฐานะที่เป็นสถาบันมาตรฐานแห่งชาติของประเทศอัฟริกาใต้ SABS ยังคงมุ่งมั่นในการมีส่วนร่วมพัฒนามาตรฐานการแพทย์แผนจีนในคณะกรรมการวิชาการ ISO/TC 249 เพื่อส่งเสริมการรักษาตามแนวทางที่บรรพบุรุษชาวจีนได้มอบเป็นมรดกไว้ให้กับชาวจีนและประชาชนทั่วโลกต่อไป
ที่มา: http://www.iso.org/iso/home/news_index/news_archive/news.htm?refid=Ref2065
Related posts
Tags: standard, Standardization, Traditional Chinese Medicine
ความเห็นล่าสุด