การศึกษาระบบนิเวศวิทยามีการศึกษาปฏิสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตรวมทั้งความหลากหลายทางชีววิทยา และจากการศึกษาของนักวิทยาศาสตร์เมื่อเร็วๆ นี้ซึ่งได้ตีพิมพ์ในวารสาร PNAS (วารสารสหสาขาวิชาวิทยาศาสตร์) พบว่าการที่ประชากรทั่วโลกส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในเมืองนั้น มีผลต่อระบบนิเวศอย่างมีนัยสำคัญทั้งโลก
การศึกษาเมื่อเร็วๆ นี้แสดงให้เห็นว่าความเป็นเมืองได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในวิวัฒนาการชั่วคราวของการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศ เช่น สัตว์ พืช รา เป็นต้น การศึกษาในเรื่องวิวัฒนาการของระบบนิเวศนี้ได้เน้นไปที่ปัจจัยด้านการกระทำของมนุษย์ แต่ยังไม่มีการศึกษาใดที่ศึกษาเฉพาะเจาะจงในบทบาทเมืองที่มีต่อวิวัฒนาการของระบบนิเวศหรือศึกษาเกี่ยวกับกลไกในเรื่องนี้ สำหรับการศึกษานี้แสดงให้เห็นถึงหลักฐานของการเชื่อมโยงรูปแบบกลไกของการพัฒนาเมืองมีต่อการเปลี่ยนแปลงตามลำดับของสปีชีส์ที่มีบทบาทหน้าที่ในชุมชนและระบบนิเวศ
จากการศึกษาการเปลี่ยนแปลงของยีนในทั่วทุกภูมิภาคมากกว่า 1,600 ชนิด นักวิทยาศาสตร์ได้พยายามตอบคำถามที่ว่าพวกเขาสามารถแยกความแตกต่างระหว่างความเป็นเมืองที่มีการเปลี่ยนแปลงของยีนกับสิ่งที่มีอยู่ดั้งเดิมตามธรรมชาติและสัญญาณของการดำเนินกิจกรรมของมนุษย์ได้หรือไม่ ซึ่งพวกเขาได้ทำการประเมินผลกระทบที่สัมพันธ์กันของสิ่งรบกวนในเมือง 5 ชนิด ได้แก่ การปรับเปลี่ยนที่อยู่อาศัย การมีปฏิสัมพันธ์ทางชีววิทยา ภาวะวิวิธพรรณด้านที่อยู่อาศัย (habitat heterogeneity) สิ่งรบกวนใหม่ และการมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคม
ยกตัวอย่างการเปลี่ยนแปลงในพืชและสัตว์นั้น มีการเปลี่ยนแปลงทั้งในด้านขนาดของร่างกายหรือลักษณะของลำต้น การเปลี่ยนแปลงรูปแบบพฤติกรรม และการปรับตัวเพื่อขยายพันธุ์ จากการศึกษาเฉพาะด้านที่ตีพิมพ์เมื่อปี 2551 (ค.ศ.2008) นักวิจัยในประเทศฝรั่งเศสสังเกตว่าการเปลี่ยนแปลงทางวิวัฒนาการในขนาดของเมล็ดพืชในเมืองมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเพื่อให้มันสามารถปรับตัวให้เข้ากับเมืองได้ เช่น ต้นฮอล์คสเบียร์ด (ชื่อทางวิทยาศาสตร์ Crepis sancta) ที่อาศัยอยู่ในเมืองมีเนื้อเยื่อของเมล็ดที่โตกว่าต้นที่มีอยู่ตามชนบท
นักวิทยาศาสตร์สันนิษฐานว่าเมื่อเมล็ดพันธุ์กระจายไปตามลม เมล็ดที่หนักกว่าจะตกอยู่ไม่ไกลแต่เมล็ดที่เบากว่าจะลอยไปได้ไกลกว่าแต่มักจะจมลงในป่าคอนกรีต ทำให้ไม่สามารถเติบโตได้ ความเร็วของการเติบโตของเมล็ดพันธุ์ที่อยู่ในเมืองนี้ทำให้นักวิจัยต่างพากันแปลกใจ พวกเขาได้สังเกตสิ่งเหล่านี้จากการศึกษามากกว่า 1,600 ครั้งซึ่งพบว่ามีผลกระทบต่อวิวัฒนาการและกิจกรรมหรือความเป็นอยู่ของมนุษย์
ทั้งนี้ เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงเหล่านั้นมีผลกระทบต่อสิ่งต่างๆ รอบตัว เช่น ความหลากหลายทางชีววิทยาซึ่งไม่เพียงแต่จะมีผลต่อวงจรชีวิตของอาหารเท่านั้น แต่ยังมีผลต่อการกระจายของเมล็ดพันธุ์ และความบริสุทธิ์ของน้ำด้วย
การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้เป็นการเปลี่ยนแปลงในหน้าที่ที่สปีชีส์ต่างๆ เช่น การผลิตอาหาร หรือการป้องกันการกระจายโรค ซึ่งต้องมีการปรับตัวให้สามารถอยูรอดในสภาพที่เปลี่ยนแปลงไป
สำหรับผลของการศึกษาโดยรวมแสดงว่าสัญญาณในเมืองมีความชัดเจนว่าอัตราการเปลี่ยนแปลงของยีนมีมากกว่าในระบบเมืองเมื่อเปรียบเทียบกับระบบดั้งเดิมที่ไม่มีความเป็นเมืองเช่นในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม ด้วยการพัฒนาของเมืองที่มีความเชื่อมโยงอย่างชัดเจนต่อการกระทำที่มีผลกระทบต่อระบบนิเวศนั้น ทำให้นักวิทยาศาสตร์สามารถมองเห็นถึงนัยสำคัญของรูปแบบการเกิดขึ้นของวิวัฒนาการของระบบนิเวศอาจเกิดขึ้นได้และการมองเห็นอนาคตเพื่อการดูแลรักษาหน้าที่ของระบบนิเวศหลัก และความยั่งยืนของสวัสดิภาพมนุษย์ก็ขึ้นอยู่กับสิ่งนี้นั่นเอง
ที่มา:
1. http://www.pnas.org/content/early/2017/01/01/1606034114.abstract
2. http://www.bbc.com/news/science-environment-38519299
Related posts
Tags: Climate Change, Environment, Future Management, Future watch
ความเห็นล่าสุด