กิจกรรมการท่องเที่ยวเป็นนับอุตสาหกรรมที่ได้รับการสนับสนุนและเติบโตเร็วมากที่สุดอุตสาหกรรมหนึ่งของโลก และยังคงเติบโตมากขึ้นต่อไป แล้วมาตรฐานสากลจะมีส่วนในการพัฒนาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวได้อย่างไร

ในขณะที่ผู้คนทั่วโลกกำลังเดินทางท่องเที่ยวไป  คนส่วนใหญ่ไม่ได้คิดถึงความหรูหรา แต่จะคำนึงถึงสิ่งจำเป็นต่อการเดินทางมากกว่า ข้อมูลขององค์การการท่องเที่ยวโลกแห่งสหประชาชาติ (United Nations World Tourism Organization: UNWTO) พบว่านักเดินทางทั่วโลกในปีที่แล้วมีถึง 1,235 ล้านคน  แต่ภายในปี 2573 (ค.ศ.2030) จำนวนนักท่องเที่ยวจะเพิ่มขึ้นเป็น 1.8 ล้านคน

การท่องเที่ยวระหว่างประเทศมีมูลค่าเป็นบริการส่งออกถึง 30% ของโลกในขณะเดียวกันยังเป็นประโยชน์ด้านเศรษฐกิจต่อชุมชนท้องถิ่นและกระตุ้นให้มีการติดต่อกันทั่วโลกซึ่งบทบาทของมาตรฐานสากลในเรื่องนี้ได้รับความสนใจน้อยมาก แต่ในความเป็นจริงแล้ว การท่องเที่ยวระหว่างประเทศกำลังมีปริมาณเพิ่มขึ้น มาตรฐานสากลก็จะมีความสำคัญมากยิ่งขึ้นกว่าที่เคยเป็นมา

แล้วมาตรฐานสากลมีส่วนสำคัญต่อแนวโน้มของการท่องเที่ยวอย่างไรบ้าง หลายประเทศทั่วโลกยังคงขาดกฎระเบียบและแนวทางของมาตรฐานสากลซึ่งยังถูกประเมินต่ำกว่าความเป็นจริง นาตาเลีย ออร์ทิส เดอ ซาราเท เครสโป เลขาธิการคณะกรรมการวิชาการ ISO/TC 228, Tourism and related services  กล่าวไว้ นอกจากนี้ ยังกล่าวด้วยว่ามาตรฐานไอเอสโอแสดงถึงวิธีปฏิบัติที่ดีที่สุดที่ได้รับการยอมรับร่วมกันจากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทั่วโลก  ซึ่งได้กลายเป็นเครื่องมืออันทรงคุณค่าและเป็นแหล่งความรู้ที่มีประโยชน์สำหรับผู้ให้บริการด้านการท่องเที่ยว

ความโปร่งใส คุณภาพและการส่งเสริมการขายในกิจกรรมสำหรับนักท่องเที่ยวนับเป็นเป้าหมายที่อยู่เบื้องหลังการแต่งตั้งคณะกรรมการวิชาการ ISO/TC 228 ซึ่งนำโดย UNE สถาบันมาตรฐานแห่งชาติของประเทศสเปน ร่วมกับ INNORPI สถาบันมาตรฐานแห่งชาติของประเทศตูนีเซีย โดยคณะกรรมการวิชาการได้มีความพยายามที่จะค้นหาวิธีที่ดีที่สุดในการส่งมอบบริการที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว  ซึ่งเป็นผลมาจากมาตรฐานกว่า 20 เรื่องที่ช่วยให้มีการปรับปรุงองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชนด้านการท่องเที่ยวในด้านต่างๆ เช่น การดำน้ำ การบำบัดด้วยน้ำทะเล การปกป้องสิ่งแวดล้อมตามธรรมชาติ กิจกรรมการท่องเที่ยวผจญภัย และบริการที่จอดเรือ เป็นต้น

การท่องเที่ยวก็เป็นอีกรูปแบบหนึ่งของการพัฒนาที่อาจก่อให้เกิดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมได้เช่นกัน ดังนั้น จึงมีการให้ความสำคัญในเรื่องของการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็นโรงแรม บริษัททัวร์ หรือนักท่องเที่ยว ต่างต้องการทางเลือกที่เกี่ยวข้องกับความยั่งยืนมากขึ้น

ในประเทศสเปน การท่องเที่ยวสามารถสร้างผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ได้ถึง 11% และมีส่วนในการสร้างงานโดยตรงถึง 1 ใน 9 ของงานที่มีอยู่ จึงไม่น่าสงสัยเลยว่าทำไมการขับเคลื่อนให้เกิดการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนจึงมีความสำคัญมาก

มิเกล  มิรอนส์ ประธานของสถาบันคุณภาพนักท่องเที่ยวสเปน (Spanish Tourist Quality Institute: ICTE) ระบุว่าอุตสาหกรรมควรมองหาเครื่องมือที่เน้นในเรื่องคุณภาพของการบริการและโครงสร้างพื้นฐานซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญของประสบการณ์นักท่องเที่ยว ความสามารถในการดำเนินการอย่างยั่งยืนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวสามารถบรรลุเป้าหมายได้เพียงแค่ผลิตภัณฑ์และบริการมีการพัฒนาและให้ความสำคัญกับคุณภาพ

มิรอนส์แนะนำว่าเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับผู้จัดการหรือผู้ที่ดูแลจุดหมายปลายทางของการท่องเที่ยวจะต้องมีความเข้าใจถึงความสำคัญของการส่งเสริมคุณภาพอันเป็นเครื่องมือพื้นฐานของการพัฒนาการท่องเที่ยว และเป็นเรื่องของภาคส่วนของเอกชนเท่านั้นที่จะต้องเข้ามามีส่วนร่วมในการใช้ภาคเอกชนให้เป็นประโยชน์และใส่ใจในเรื่องคุณภาพ ซึ่งจะทำให้สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ถึงระดับของความสามารถในการดำเนินการอย่างยั่งยืนที่เหมาะสม

ปี 2560 (ค.ศ.2017) เป็นปีที่องค์การสหประชาชาติกำหนดให้เป็นปีแห่งการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนเพื่อการพัฒนา (International Year of Sustainable Tourism for Development) ในปีนี้ การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน การท่องเที่ยวจะมีบทบาทอย่างไรในเวทีของโลก โปรดติดตามได้ในบทความตอนต่อไปซึ่งเป็นตอนจบค่ะ

ที่มา: https://www.iso.org/news/ref2223.html  

Related posts

• การติดตั้งตัวกรองไอเสียในรถโรงเรียนช่วยลดการปล่อยมลพิษได้ถึง 80%
• ก้าวสู่อนาคตของเมืองที่ยั่งยืน
• ไอเอสโอบูรณาการมาตรฐานป้องกันปัญหาคอร์รัปชั่น
• “มาตรวิทยา” ศาสตร์แห่งการวัดผลในยุคดิจิทัล
• ไอเอสโอแนะมาตรฐานสร้างความยืดหยุ่นทางไซเบอร์ให้องค์กร

Tags: Climate Change, Standardization, Travel & Leisure