เมื่อพูดถึงภาพยนต์ไซไฟที่มีหุ่นยนต์ บางทีเรื่องพวกนี้ก็ดูเหมือนเป็นเรื่องเพ้อฝัน   แต่ในยุคนี้ เรื่องไซไฟในนิยายสามารถกลายเป็นเรื่องจริงได้ไม่ยาก และถ้าเป็นเรื่องหุ่นยนต์นวัตกรรมที่เกิดขึ้นในแผนกวิศวกรรมศาสตร์ของมหาวิทยาลัยเทกซัสแล้ว ความฝันพวกนั้นอยู่ไม่ไกลเกินจริงเท่าใดนัก

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.หลุยส์ เซนทิส ภาควิชาวิศวกรรมการบินและอวกาศของมหาวิทยาลัยเทกซัส ออสติน ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าโครงการที่ได้รับทุนจากรัฐบาลสหรัฐรวมทั้งสำนักงานวิจัยกองทัพเรือของนาซ่า  สำนักโครงการวิจัยขั้นสูงด้านกลาโหม (DARPA) สมาคมวิทยาศาสตร์แห่งชาติและกระทรวงกลาโหม

สำนักโครงการวิจัยขั้นสูงด้านกลาโหม (DARPA) และสมาคมวิทยาศาสตร์แห่งชาติและกระทรวงกลาโหม ได้มอบทุนให้กับ ดร.เซนทิสและทีมเมื่อช่วงเดือนมิถุนายนปีที่ผ่านมา และทุนนั้นเป็นการทำเพื่อ “อนาคตของหุ่นยนต์”  ซึ่งเป็นเรื่องที่เฉพาะเจาะจงสำหรับอนาคต รวมทั้งหุ่นยนต์ที่มหาวิทยาลัยเทกซัส ออสตินซึ่งได้พัฒนาจนมีความเสถียรในระดับหนึ่งแล้ว

กลุ่มที่ทำงานกับเครื่องจักรมนุษย์หรือหุ่นยนต์ที่ออกแบบมาเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับมนุษย์ในการสำรวจดาวอังคาร จะเป็นอย่างไรนั้น ลองนึกถึงหุ่นยนต์ไซไฟที่พูดและเดินได้กับหุ่นยนต์ที่ใส่ชุดเครื่องยนต์ที่มีความทนทานและแข็งแกร่ง ซึ่งทีมของเซนทิสและนักศึกษาระดับปริญญาเอกได้จัดทำเอกสารที่แสดงตัวตนกับรัฐบาลซึ่งมีการพัฒนาเพื่อหุ่นยนต์อาร์ไฟว์หรือวัลเคียรี่แล้ว

หุ่นยนต์อวกาศของเซนทิสทำหน้าที่สำรวจดาวอังคารให้กับนาซ่าซึ่งผู้เชี่ยวชาญของเซนทิสอธิบายว่าหุ่นยนต์ของเขามีลักษณะเหมือนมนุษย์และมีความได้เปรียบในด้านสภาพแวดล้อมในชีวิตจริง และนับว่าเป็นความก้าวหน้าของหุ่นยนต์ที่ให้ความสำคัญกับมนุษย์ในการเป็นศูนย์กลางโดยทำหน้าที่ช่วยเหลือมนุษย์ในแง่ของการเตรียมการป้องกันและการจัดการกับงานที่เป็นอันตรายหรือมีความเสี่ยงสูง

ดร.เซนทิสกล่าวว่า ถ้าคุณคิดถึงผลิตภาพของหุ่นยนต์ทั่วไปที่ผลิตขึ้น มันสามารถวัดได้ในเง่ของชั่วโมงการทำงานและผลกำไรที่ได้รับ แต่ถ้าพูดถึงการเดินทางอันยาวนานไปยังดาวอังคารแล้ว ผลิตภาพหุ่นยนต์ของเขาจะวัดได้ในเง่ของความปลอดภัยของนักบินอวกาศและความสามารถในการบรรลุซึ่งงานที่มีความท้าทายหรือยากลำบากแทน

หัวใจสำคัญของงานในทีมเซนทิส คือหุ่นยนต์ที่สามารถเลียนแบบการเคลื่อนไหวและเลียนแบบปฏิกิริยาของมนุษย์ ท่าทางที่ใช้ในการป้องกันตัว รวมทั้งคุณภาพในด้านการทำซ้ำๆ ที่เลียนแบบมนุษย์ได้ดี  ทำให้ได้รับรางวัลที่ 3 จากการประกวดหุ่นยนต์นานาชาติเมื่อปีแล้ว

หุ่นยนต์วัลเคียรี่เป็นหุ่นยนต์ที่เคลื่อนไหวได้อย่างอิสระเหมือนมนุษย์โดยมีเซนเซอร์ควบคุมกว่า 200 ตัวทั่วร่างกายพร้อมด้วย AI ซึ่งมีการพัฒนาให้หุ่นยนต์ตัดสินใจได้เองโดยไม่ต้องเสียเวลารอคำสั่งจากมนุษย์  หุ่นยนต์ของทีมเซนทิสมีเป้าหมายในการบรรลุความเป็นหุ่นยนต์ที่เหมือนมนุษย์โดยสมบูรณ์ซึ่งยังต้องใช้เวลาและเงินทุนในการสนันสนุน ต่อไป  คาดว่าหุ่นยนต์นี้จะเริ่มปฏิบัติภารกิจบนดาวอังคารได่อย่างเป็นทางการภายในปี 2573 (ค.ศ.2030)

ที่มา:

1. https://www.disruptordaily.com/university-texas-american-hub-human-based-robotic-disruption/?platform=hootsuite 

2. https://er.jsc.nasa.gov/

3. https://www.spokedark.tv/posts/valkyrie-nasa-robot/

Related posts

• เกิดอะไรขึ้นเมื่อบริษัทระดับโลกมีความสนใจเกี่ยวกับนวัตกรรมด้านความยั่งยืน
• แนวโน้มใหญ่ที่ส่งผลต่อภาครัฐในปี 2573: สิ่งแวดล้อม
• เมื่อมาตรฐานอาคารสีเขียวถูกโจมตี
• แอพไฮเทค “รีเฟรช” รู้มากกว่าเลขานุการส่วนตัว
• บทเรียนเรื่องโดรนจากประเทศอังกฤษ

Tags: Construction & Materials, Future Management, Future watch, robot, Robotic