MASCI Innoversity เคยนำเสนอบทความเรื่อง “บุหรี่ไฟฟ้า นวัตกรรมติดตลาดโลก” เมื่อเดือนเมษายน 2559 ซึ่งในปัจจุบันเกิดกระแสวิพากวิจารณ์ที่ร้อนแรงขึ้นเกี่ยวกับการให้ทุนศึกษาวิจัยเกี่ยวกับยาสูบดังต่อไปนี้
เมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว มหาวิทยาลัยอูเทรคต์ในประเทศเนเธอร์แลนต์ได้รับเงินทุนวิจัยจำนวน 360,000 ยูโรจากผู้ผลิตบุหรี่ “ฟิลลิป มอร์ริส” (ผู้ผลิตและจำหน่ายบุหรี่รายใหญ่ของโลก) ซึ่งให้ทุนการศึกษาเกี่ยวกับการลักลอบบุหรี่ที่มีความสำคัญต่อสุขภาพของสาธารณชน ซึ่งหัวหน้านักวิจัย คือจอห์น เวอร์แวล จะได้ทำงานด้านวิชาการอย่างเต็มที่ แน่นอนว่ามีการถกเรื่องนี้กันอย่างรอบคอบเกี่ยวกับการได้รับทุนวิจัย ซึ่งเขากล่าวกับสื่อมวลชนว่า ถึงอย่างไรอุตสาหกรรมยาสูบก็ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย แต่การค้าอย่างเปิดเผยต่างหากที่ถูกต้องตามกฎหมาย
แต่การประกาศดังกล่าวก็เป็นการจุดไฟของการวิจารณ์จากคนนอกกลุ่มรวมทั้งสมาคมโรคปอดและเนื้องอกรวมทั้งสมาคมมะเร็งแห่งดัตช์ ว่ามหาวิทยาลัยไม่ควรรับเงินจากอุตสาหกรรมที่มีส่วนในการทำให้คนราว 7 ล้านคนต้องเสียชีวิตไปทุกๆ ปีจากผลิตภัณฑ์เหล่านั้น และเมื่อวันที่ 17 มกราคมที่ผ่านมา ประเด็นถกเถียงในเรื่องนี้ร้อนแรงขึ้นจนกระทั่งเวอร์แวลไม่ได้รับอนุญาตให้พูดคุยกับสื่อมวลชนอีกต่อไป
การต่อสู้ที่คล้ายคลึงกันนี้ดูเหมือนจะเริ่มผุดขึ้นอีกในสถาบันการศึกษาอื่นๆ ด้วย เพราะโครงการระดับโลกที่ต่อต้านการค้าที่ผิดกฎหมายอย่าง PMI (Philip Morris International) ก็กำลังวางแผนที่จะใช้จ่ายเงินที่มากขึ้น ทุนของมหาวิทยาลัยอูเทรคต์ก็มาจาก PMI โดยโครงการมูลค่า 100 ล้านเหรียญสหรัฐมีวัตถุประสงค์เพื่อทำการต่อสู้กับการค้าผิดกฎหมายด้วยการให้ทั้งทุนและการบังคับใช้กฎหมาย และเงินจำนวนมากขึ้นจะมาจากมูลนิธิโลกที่ปราศจากควันซึ่งเป็นมูลนิธิอิสระที่ตั้งอยู่ที่นิวยอร์ก และได้เปิดตัวไปเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้วซึ่ง PMI มีพันธสัญญาว่าจะบริจาคเงินให้เกือบหนึ่งพันล้านเหรียญสหรัฐในช่วง 12 ปีข้างหน้า
PMI ซึ่งเป็นผู้ผลิตบุหรี่มาร์ลโบโรและยี่ห้ออื่นๆ กล่าวว่าได้สนับสนุนมูลนิธิเพราะบริษัทต้องการให้ยุติการผลิตและการใช้บุหรี่แบบเผาไหม้และช่วยให้นักสูบเปลี่ยนไปใช้ทางเลือกที่อันตรายน้อยลง ซึ่ง PMI ได้ลงทุนไปกับเรื่องนี้แล้วเป็นจำนวนมาก แต่นักวิทยาศาสตร์หลายคนและผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขกล่าวว่ามูลนิธิใหม่เป็นเป็นเสมือนจอที่กรองควันซึ่งสร้างขึ้นมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของ PMI
นอกจากนี้ จากรายงานข่าวของสำนักข่าวรอยเตอร์เมื่อปลายปีที่แล้ว ก็ระบุว่ากลุ่ม “ฟิลลิป มอร์ริส” ได้คิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่โดยการนำบุหรี่แบบดั้งเดิมมารวมกับบุหรี่ไฟฟ้า และผู้ผลิตบุหรี่รายอื่นก็พยายามหานวัตกรรมมาใช้ในบุหรี่แบบดั้งเดิมเช่นกัน เช่น เจแปนโทแบคโค และบริติชอเมริกันโทแบคโค เป็นต้น
รายงานข่าวดังกล่าวรวมกับประเด็นร้อนที่เป็นที่ถกเถียงกันว่านักวิจัยควรรับเงินทุนจากผู้ผลิตยาสูบหรือไม่ จึงเป็นสิ่งที่สะท้อนว่าธุรกิจยาสูบจำเป็นต้องปรับตัวให้สามารถอยู่ได้ในอนาคตเช่นเดียวกับธุรกิจหลายอย่างที่ถูก disrupt ด้วยสภาพสังคม สิ่งแวดล้อม และเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไป
ที่มา:
2. https://brandinside.asia/philip-morris-end-of-tobacco/
Related posts
Tags: Future Management, Future watch, Innovation
Recent Comments