ผู้นำยุคใหม่มักใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือในการบริหารจัดการ แต่ก็ไม่อาจละเลยความเป็นมนุษย์ปุถุชนที่มีชีวิตจิตใจในการทำงานไปได้ ซิดนีย์ ฟินเคลสไตน์ ผู้เขียนหนังสือ “Superbosses: How Exceptional Leaders Master the Flow of Talent” กล่าวว่าเทคโนโลยีกำลังทำให้ผู้นำต้องเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานไปจากเดิม
แม้ว่าจะมีการใช้เครื่องมือดิจิตอลช่วยสนับสนุนการทำงานมาก่อนหน้านี้แล้ว แต่ผู้นำที่มีประสิทธิผลก็ยังคงต้องพึ่งพิงทักษะของมนุษย์อยู่เช่นกัน ซิดนีย์ ฟินเคลสไตน์ กล่าวว่าความสามารถที่เราได้มาจากการเรียนแบบเก่ามีความสำคัญสำหรับการกระตุ้นและสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนทำงานได้มากกว่าที่เคยเป็นมาก่อนหน้านี้เสียอีก ซึ่งเขาได้ใช้เวลามากกว่า 10 ปีในการศึกษาวิธีการเป็นเจ้านายที่ทำหน้าที่เป็นผู้นำที่ดี
เขากล่าวว่า คุณลักษณะที่จำเป็นต้องมีอยู่ในตำแหน่งของผู้นำในแต่ละคน คือ ความสามารถในการปรับตัว การคิดอย่างไม่จำเป็นต้องมีแบบแผน และการให้คำปรึกษาที่โดดเด่น ในหนังสือดังกล่าว ระบุว่าในขณะที่การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีอาจจะกำจัดรูปแบบของการจัดการในบางรูปแบบออกไป ทักษะส่วนบุคคลอันเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้นำมีความแตกต่างกัน กลับเป็นสิ่งที่หายากมากขึ้นและทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีขึ้นมากมายอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
วารสาร MIT Sloan Management Review ได้พูดคุยกับฟินเคลสไตน์เกี่ยวกับธรรมชาติที่เกี่ยวข้องกับความเป็นผู้นำในยุคดิจิตอล โดยมีฟรีดา คลอทส์ ผู้สื่อข่าวอิสระเข้าสัมภาษณ์และได้คำตอบที่น่าสนใจ ดังต่อไปนี้
เดี๋ยวนี้ ทุกๆ บริษัทเป็นบริษัทที่ต้องใช้เทคโนโลยีในการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นบริษัทที่ทำการพัฒนาเทคโนโลยีในซิลิคอน วัลเลย์หรือเป็นแค่บริษัทผู้ใช้เทคโนโลยีเท่านั้น ผู้ปฏิบัติงานที่ทำงานอยู่ในยุคนี้ต้องใช้ความสามารถด้านเทคโนโลยีที่ไม่เข้ากันกับสิ่งต่างๆ ที่เคยมีมาก่อนหน้านี้ เช่น คนเราสามารถทำงานที่ไหนก็ได้และไม่จำเป็นต้องอยู่ในออฟฟิศในเวลาเดียวกันก็ได้
ดังนั้น ผู้นำที่โดดเด่น ซึ่งสามารถดึงเอาคุณลักษณะที่โดดเด่นของผู้ปฏิบัติงานแต่ละคนออกมาได้ จะสามารถสร้างโอกาสให้กับพนักงานที่เขาทำการบริหาร ทำให้ดึงเอาความคิดสร้างสรรค์ออกมาได้ ซึ่งจะทำให้ทุกคนสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างยืดหยุ่น สามารถดึงดูดเอาคนที่มีความสามารถใหม่ๆ เข้ามาทำงาน และสร้างความเข้มแข็งให้กับทีมโดยใช้เทคโนโลยีในด้านต่างๆ
มีเครื่องมือการสื่อสารที่แตกต่างกันหลายเครื่องมือที่เชื่อมโยงลูกจ้างทั่วทั้งองค์กร อย่าง Slack และ Facebook รวมทั้งบริษัทที่สามารถบริหารจัดการทีม ซึ่งจำเป็นต้องรู้ว่า อะไรคือสิ่งที่ดีที่สุดที่แต่ละคนมีและจะนำความสามารถนั้นมาใช้ให้สอดประสานจนเกิดงานที่มีประสิทธิผลร่วมกันได้อย่างไร
แต่สิ่งที่ขัดแย้งกับความรู้สึกของคนทั่วไปก็คือ ยิ่งมีเทคโนโลยีมากขึ้นเท่าใด ก็ยิ่งเกิดความเท่าเทียมกันมากขึ้นเท่านั้น คุณค่าที่มากขึ้นจะทำให้ผู้นำเติบโตและมีทักษะเสริมมากขึ้น และกลายเป็นเรื่องปกติ เพราะเทคโนโลยีสามารถทำให้บางสิ่งบางอย่างทำได้ง่ายขึ้น คนจึงมีเวลาฝึกฝนสิ่งที่แตกต่างออกไปมากขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องที่ทำได้ไม่ง่ายนักและมีคุณค่าเป็นอย่างมาก แล้วมันจะเป็นไปได้หรือที่เอไอและหุ่นยนต์จะเข้ามาแทนที่ผู้นำ คำถามนี้ มีคำตอบอยู่ในชื่อบทความนี้แล้ว แต่รายละเอียดจะเป็นอย่างไรนั้น โปรดติดตามได้ในบทความฉบับหน้าซึ่งเป็นตอนจบค่ะ
Recent Comments