บทความเรื่อง แนะ 12 วิธีช่วยเสริมแกร่งจิตใจ ตอนที่ 1 กล่าวถึงแนวทาง 6 ข้อที่จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับจิตใจ ได้แก่ ฝึกฝนถึงความรู้สึกกตัญญูรู้คุณ  ตอบปฏิเสธ  เอาชนะคำวิพากษ์วิจารณ์ตัวเอง เปิดเผยและยอมรับความเจ็บปวด สร้างนิยามความสำเร็จด้วยตนเอง  และยอมเสียเวลารอคอยสิ่งที่ปรารถนา ส่วนอีก 6 ข้อที่เหลือ มีดังต่อไปนี้

7. ไม่มีการโทษผู้อื่น คนที่มีความแข็งแกร่งทางจิตใจจะไม่มีวันกล่าวโทษว่าเป็นความผิดผู้อื่น แต่จะมีความรับผิดชอบอย่างเต็มที่ต่อการกระทำของตนเอง การจะทำเช่นนั้นได้ นั่นคือการไม่ใช้อำนาจกับผู้อื่น แต่คนที่ทำ หมายความว่าเป็นคนหลงผิดและยึดติดกับอำนาจจนกลายเป็นคนที่มีทัศนคติเชิงลบ

8. การฝึกฝนมองโลกในแง่ดี คนที่มีความเข้มแข็งทางจิตใจเป็นคนที่มองโลกในแง่ดี แต่ก็เข้าใจด้วยว่าพวกเขาไม่อาจมองโลกในแง่ดีจนเกินไป ในโลกแห่งความเป็นจริง หากฝันลมๆ แล้งๆ แต่ไม่แสดงเป้าหมายออกมาให้ชัดเจนและลงมือปฏิบัติแล้ว ก็ยากที่จะก้าวไปถึงจุดหมายที่ต้องการ คนที่มีความเข้มแข็งทางจิตใจจะมีการฝึกฝนตนเองให้มีการมองโลกในแง่ดีอยู่เสมอ ซึ่งหมายรวมถึงจะมีการพิจารณาถึงความท้าทายที่กำลังเผชิญหน้าอยู่และรู้ว่าจะต้องทำอะไรเพื่อให้ก้าวข้ามอุปสรรคไปได้

9. มีการรับรู้ข้อจำกัดของตนเอง   แม้ว่าคนที่มีความแข็งแกร่งทางจิตใจจะผลักดันตัวเองได้ แต่พวกเขาก็รู้ว่าเมื่อไรที่ควรยกธงขาว พวกเขาตระหนักถึงจุดอ่อนของตนเอง และไม่ลังเลที่จะเอ่ยขอความช่วยเหลือเมื่อมีความจำเป็น แต่ผู้นำบางคนก็ลังเลใจที่จะแสดงความอ่อนแอออกมาให้เห็น แต่การร้องขอความช่วยเหลือก็สามารถทำให้เกิดการเรียนรู้ได้มากขึ้นกว่าเดิม การสนับสนุนกลุ่มทักษะที่จำเป็นมีความจำเป็นมากกว่าการปกป้องอีโก้ของตนเอง

10. การไม่เปรียบเทียบตนเองกับผู้อื่น คนที่มีความเข้มแข็งทางจิตใจจะใช้เวลาและทำงานอย่างระมัดระวังและรู้คุณค่า ดังนั้น จึงไม่จำเป็นต้องเสียเวลาไปกับการกังวลว่าคนอื่นๆ ทำอะไรอยู่ ความรู้สึกอิจฉาริษยาหรือความไม่พอใจเป็นความรู้สึกที่ทำให้หมดพลังได้ง่ายๆ แต่การชื่นชมและยินดีไปกับความสำเร็จของคนอื่นๆ นั้น เป็นการมองโลกในแง่ดีและเป็นสถานการณ์ที่ทุกคนได้รับชัยชนะ และจากการศึกษาของมหาวิทยาลัยฮาร์เวิร์ด ความรู้สึกของการมองโลกในแง่บวกอาจช่วยให้ลดความเสี่ยงของการตายจากโรคที่สำคัญ เช่น โรคหัวใจ ได้ด้วย

11.ความรู้สึกสนุกสนานไปกับความกลัว คนส่วนใหญ่มักวิ่งหนีความกลัว แต่ไม่ใช่คนที่มีความแข็งแกร่งทางจิตใจ ซึ่งไม่เพียงแต่ค้นหาความกลัวเท่านั้น แต่ยังรู้สึกสนุกสนานไปกับความรู้สึกหวาดกลัวอีกด้วย ซึ่งฟังดูแล้ว อาจจะดูผิดปกติ แต่พวกเขาตระหนักดีว่าความรู้สึกกลัวเป็นการผลักดันให้ตนเองต้องออกจากคอมฟอร์ทโซน ดังนั้น จึงได้รับประสบการณ์ใหม่ๆ พบผู้คนใหม่ๆ และเรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องราวใหม่ๆ ด้วย

นอกจากนี้ ความกลัวยังเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพในแง่ที่ว่าทำให้สมองมีความว่องไว ตื่นตัว สามารถสร้างสมดุลหน้าที่ของร่างกาย เช่น ระบบภูมิคุ้มกัน เป็นต้น และกระตุ้นให้เราประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่ตั้งไว้

12. การยอมรับนับถือผู้อื่นแม้แต่คู่แข่ง คนที่มีความเข้มแข็งทางจิตใจจะไม่รู้สึกกลัวและไม่รู้สึกอิจฉาคู่แข่ง แต่จะยอมรับนับถือหรือแม้แต่ชื่นชอบคู่แข่งของตนเอง พวกเขาตระหนักดีว่าคู่แข่งสามารถเป็นครูที่ดีให้ได้ กล่าวคือ เขาสามารถมองเห็นในสิ่งที่คู่แข่งทำ ไม่ว่าจะผิดหรือถูกและมองเห็นว่าอะไรที่ทำให้พวกเขาแตกต่างกัน รวมทั้งยังนำมาใช้เป็นแรงบันดาลใจให้ตนเองก้าวหน้าขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง

ทั้งสตีฟ จอบส์ และบิลล์ เกตส์  มีความสัมพันธ์กันแบบทั้งรักทั้งเกลียด แต่ทั้งสองคนก็สนับสนุนและเคารพซึ่งกันและกันมาตลอด บิลล์ เกตส์เคยยอมรับว่า เขาทำทุกอย่างเพื่อให้มีรสนิยมแบบสตีฟ เพราะเขาชื่นชมและประทับใจกับบริษัทที่สตีฟสร้างขึ้นมา เขารู้สึกสนุกสนานไปกับการทำงานร่วมกับสตีฟ บิลล์ เกตส์กล่าวว่า สตีฟเป็นคนที่ฉลาดหลักแหลมและมีอารมณ์ขันจริงๆ

ทั้งหมดนี้คือ กล่าวถึงแนวทาง 12 ข้อที่จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับจิตใจและสามารถนำเราไปพบกับความสำเร็จตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ได้ แต่ถึงแม้ว่าจะยังไม่ก้าวไปสู่จุดหมายในตอนนี้ อย่างน้อย แนวทางทั้ง 12 ข้อก็จะช่วยให้เราสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณค่าและนำพาเราก้าวสู่เป้าหมายต่อไป

ที่มา: https://www.entrepreneur.com/article/318243

Related posts

• ช่องว่างความร่ำรวยที่เพิ่มขึ้น ถือเป็นความเสี่ยงที่สำคัญที่สุดของโลก
• 4 แนวโน้มการตลาดที่น่าติดตามในปี 2015
• คุณคือดาวจรัสแสงในที่ประชุม
• ข้อมูลขนาดใหญ่ 6 กรณีศึกษาทางธุรกิจที่นำมาใช้จริง ตอนที่ 2
• เคล็ดลับ 5 ประการ ก้าวสู่ “นวัตกรรม” ที่คุณก็ทำได้

Tags: Management Strategy, Strategic Management