ไอเอสโอเป็นองค์กรอิสระและเป็นองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไรซึ่งมีบทบาทสำคัญในการกำหนดมาตรฐานที่ช่วยสนับสนุนให้เกิดนวัตกรรม ซึ่งในเดือนกันยายนนี้ วารสารไอเอสโอโฟกัสได้เข้าสัมภาษณ์มิเคล มุลเลอร์ เลขาธิการของสำนักงานองค์การสหประชาชาติประจำกรุงเจนีวา (United Nations Office at Geneva: UNOG) เกี่ยวกับการมีส่วนร่วมของไอเอสโอในวาระ 2030 ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อการพัฒนาอย่างอย่างยั่งยืน

เลขาธิการของสำนักงานองค์การสหประชาชาติประจำกรุงเจนีวา ได้กล่าวถึงมาตรฐานไอเอสโอว่าเป็นมาตรฐาน สากลที่มีส่วนร่วมในการทำให้เป้าหมายของการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) ประสบความสำเร็จ

สำหรับเป้าหมายของการพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDGs) ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในชื่อของเป้าหมายระดับโลก (Global Goals) นั้นเป็นการเรียกร้องให้ทั่วโลกให้ความสนใจปัญหาที่ประเทศต่างๆ กำลังเผชิญอยู่  ไม่ว่าจะเป็นการยุติความหิวโหย การปกป้องโลก หรือการทำให้โลกมีสันติภาพและความมั่งคั่ง

มิเคล มุลเลอร์ เป็นหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญและผู้นำระดับโลกที่มีอยู่เพียงไม่กี่คนที่ช่วยสนับสนุนมาตรฐานสากลมีการนำไปใช้อย่างแพร่หลายเพื่อทำให้โลกของเราสามารถบรรลุวาระ 2030 สำหรับเป้าหมายเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนได้

ทั้งนี้ มาตรฐานสากลที่ช่วยในเรื่องดังกล่าว มีอยู่หลายด้านด้วยกัน เช่น การต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เมืองอัจฉริยะ และยังมีประเด็นสำคัญที่ช่วยตอบสนองความต้องการและช่วยให้สามารถนำความก้าวหน้าของโครงการไปเปรียบเทียบกับเป้าหมาย SDGs ด้วย

ส่วนเลขาธิการไอเอสโอ เซอร์จิโอ มูจิก้า กล่าวว่าภาคเอกชน บริษัท รัฐบาล และองค์กรต่างๆ ทั่วโลกจะสามารถค้นหาแนวทางการแก้ไขปัญหาของโลกด้วยการนำมาตรฐานสากลไปใช้เพื่อให้มั่นใจในเรื่องของความยั่งยืน และหากทั่วโลกนำมาตรฐานสากลที่ช่วยในการส่งเสริมเรื่องของความยั่งยืนแล้ว ก็จะทำให้โลกของเรามีส่วนร่วมในการทำให้บรรลุถึงวาระ 2030 โดยไม่มีใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง

สำหรับมาตรฐานสากลที่ช่วยให้โลกของเราสามารถบรรลุเป้าหมายของการพัฒนาอย่างยั่งยืนนั้น เกี่ยวข้องกับเป้าหมายของการพัฒนาอย่างยั่งยืนในหลายข้อ ได้แก่

1. การมีน้ำใช้ การจัดการน้ำและสุขาภิบาลอย่างยั่งยืน (clean water and sanitation: SDG 6)
2. การมีพลังงานที่ทุกคนเข้าถึงได้ เชื่อถือได้ และยั่งยืน  (affordable and clean energy: SDG 7)
3. การเติบโตทางเศรษฐกิจที่ต่อเนื่อง ครอบคลุม ยั่งยืน และการจ้างงานที่มีคุณค่า  (decent work and economic growth: SDG 8)
4. การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่รองรับการเปลี่ยนแปลง ส่งเสริมการปรับตัวให้เป็นอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืนและทั่วถึง และสนับสนุนนวัตกรรม (industry, innovation and infrastructure: SDG 9)
5. การทำให้เมืองและการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์มีความปลอดภัยทั่วถึง พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงและการพัฒนาอย่างยั่งยืน  (sustainable cities and communities: SDG 11)
6. การผลิตและการบริโภคอย่างมีความรับผิดชอบ (responsible consumption and production: SDG 12)
7. มาตรการเพื่อปฏิบัติการด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ(climate action: SDG 13)

ทั้งนี้ เป้าหมายเหล่านั้นแสดงให้เห็นถึงความต้องการมาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับเป้าหมายดังกล่าว ซึ่งไอเอสโอมีตัวอย่างโดยเฉพาะสำหรับผู้ใช้มาตรฐานและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียซึ่งสามารถช่วยเร่งให้เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของโลกประสบความสำเร็จได้ นอกจากนี้ ไอเอสโอยังมีเรื่องเล่าและตัวอย่างของบุคคล ชุมชน และธุรกิจที่มีการปรับปรุงให้ดีขึ้นซึ่งเป็นผลมาจากการนำมาตรฐานสากลไปใช้

สำหรับการสัมภาษณ์มิเคล มุลเลอร์ เลขาธิการของสำนักงานองค์การสหประชาชาติประจำกรุงเจนีวา จะมีรายละเอียดอย่างไร โปรดติดตามในบทความครั้งต่อไป

ที่มา:

1. https://www.iso.org/news/ref2321.html

2. https://www.un.or.th/globalgoals/th/the-goals/

Related posts

• บริการด้วยรอยยิ้ม ริมทะเลประเทศสเปน
• ปรับปรุงใหม่ มาตรฐานวิธีวัดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์
• ไอเอสโอแนะนำชุดมาตรฐานใหม่เสริมแกร่งทรัพยากรบุคคล
• ISO 37000 มาตรฐานสากลด้านธรรมาภิบาล
• ใช้น้ำอย่างคุ้มค่า ต้องนำมาตรฐานสากลไปปรับใช้

Tags: Climate Change, Standardization, Sustainability