ปัจจุบัน ประชากรในเมืองมีมากขึ้นและยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องซึ่งองค์การสหประชาชาติได้ทำนายว่าประชากรในเมืองทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นจาก 3.9 พันล้านคนในปี 2558 (ค.ศ. 2015) ไปเป็น 6.3 พันล้านคนในปี 2593 (ค.ศ. 2050) ดังนั้น หากเป็นไปตามที่คาดหมาย ประชากรที่อาศัยอยู่ในเมืองทั่วโลกจะมีเพิ่มขึ้นถึง 60% ภายใน 35 ปีข้างหน้า
ปัญหาต่างๆ ที่ตามมาสำหรับเมืองที่มีประชากรเพิ่มขึ้นมีทั้งมลพิษ การปล่อยก๊าซเรือนกระจก การจราจรที่ติดขัด และชุมชนที่หนาแน่นไปด้วยผู้คน สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงตัวอย่างบางประการของปัญหาเท่านั้น เมืองยังอาจจะต้องเผชิญหน้ากับปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นมาอีกหล้ายด้าน ด้วยเหตุนี้ เป้าหมายของการพัฒนาอย่างยั่งยืนข้อ 11 ขององค์การสหประชาชาติจึงต้องการทำให้การตั้งรกรากของเมืองและมนุษย์มีความปลอดภัย ความยืดหยุ่น และความยั่งยืน และหากโลกต้องการบรรลุเป้าหมายดังกล่าว เราจำเป็นต้องทำงานร่วมกันเพื่อพัฒนาเครื่องมือที่จะช่วยให้เมืองมีความเป็นอัจฉริยะและยั่งยืนอย่างแท้จริง ซึ่งมาตรฐานสากล ISO 37101 – Sustainable development in communities – Management system for sustainable development – Requirements with guidance for use จะเป็นเครื่องมืออันทรงพลังที่จะช่วยเปลี่ยนแปลงและพัฒนาเมืองให้ดีขึ้น ลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น มีการใช้โครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ เครือข่ายระบบขนส่ง พลังงานและน้ำ ยกตัวอย่างเช่น ที่เมืองแซปปาด้า ประเทศอิตาลี
ซารา โทนิโอโล และชีอารา เพียเรตโต จากศูนย์วิจัยคุณภาพและสิ่งแวดล้อม ภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหกรรม ของมหาวิทยาลัยปาโดวา ได้อธิบายถึงวิธีการนำมาตรฐาน ISO 37101 ไปใช้ในเมือง ดังต่อไปนี้
แซปปาด้าเป็นเมืองที่ล้อมรอบไปด้วยป่าสนเขาในเทือกเขาโดโลไมท์และเป็นสถานที่ประวัติศาสตร์ซึ่งมาจากการก่อตั้งโดยชาวไทโรลีนซึ่งอพยพจากทางตอนใต้ขึ้นมาตั้งรกรากอยู่ทางตอนเหนือและมีภาษาท้องถิ่นเป็นของตนเอง เมืองเล็กๆ แห่งนี้มีการเฉลิมฉลองงานประจำปีคาร์นิวาลของเมืองแซปปาด้าซึ่งใช้หน้ากากไม้อันเดิมที่ตกทอดจากบรรพบุรุษจากรุ่นหนึ่งไปสู่อีกรุ่นหนึ่ง
ภูมิทัศน์ที่ล้อมรอบไปด้วยเทือกเขาที่ไม่เหมือนใครในภูมิภาคนี้ได้รับการอนุรักษ์จากชุมชนที่มีผู้มาเยี่ยมชมมากกว่า 96,000 คนเป็นประจำทุกปี ที่นี่มีรีสอร์ทที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบกีฬาฤดูหนาว ความท้าทายของเมืองนี้ คือการบริหารจัดการด้านการพัฒนาหมู่บ้านในขณะเดียวกันก็ต้องคงไว้ซึ่งเสน่ห์ของเมืองเก่าอันทรงคุณค่า ซึ่งจำเป็นต้องมีกลยุทธ์ด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนและปฏิบัติการที่ชัดเจนซึ่งชุมชนสามารถทำได้เพื่อตอบสนองวัตถุประสงค์ด้านการพัฒนาที่มีการออกแบบมาเพื่อความต้องการทั้งในด้านสังคม สิ่งแวดล้อม และเศรษฐกิจ โดยนายกเทศมนตรีเมืองแซปปาด้าได้หันมานำมาตรฐาน ISO 37101 ไปใช้
มาตรฐาน ISO 37101 เป็นระบบการจัดการสำหรับการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน โดยเมืองแซปปาด้าได้ร่วมมือกับศาสตราจารย์อันโตนิโอ ชิปปิโอนี แห่งภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหกรรมของมหาวิทยาลัยปาโดวา ในการทำให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในท้องถิ่นและภูมิภาคนี้มีเป้าหมายร่วมกัน ช่วยให้มีโครงการการวางแผนชุมชนและการพัฒนาพื้นที่ซึ่งดูแลทั้งในด้านสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจและคุณลักษณะด้านวัฒนธรรมสังคม ส่งผลให้เมืองนี้ได้รับการรับรองตามมาตรฐาน ISO 37101 เมื่อเดือนพฤษภาคม 2561
ทั้งนี้ เมืองแซปปาด้าได้ทำให้สมาคมด้านการพัฒนาท้องถิ่นในด้านวัฒนธรรมเข้ามามีส่วนร่วมโดยดึงเอาผู้ปฏิบัติงานและผู้จัดการด้านการท่องเที่ยวของโรงแรมเข้ามาร่วมงาน และยังได้พัฒนาเครื่องมือใหม่ๆ ที่ช่วยให้เทศบาลเมืองสามารถระบุและเข้าถึงกิจกรรมด้านความยั่งยืนของเมือง รวมถึงความเสี่ยง และโอกาสด้วย พวกเขามีความภาคภูมิใจที่ได้มีส่วนทำให้เมืองประสบความสำเร็จ และเมืองแซปปาด้ายังเป็นชุมชนแรกของประเทศอิตาลีและชุมชนแรกของยุโรปที่ได้รับการรับรองตามมาตรฐาน ISO 37101 ด้วย
ISO 37101 ช่วยกระตุ้นให้เมืองแซปปาด้ายังคงสามารถเฉลิมฉลองความเป็นเอกลักษณ์ของเมืองและวัฒนธรรมในขณะเดียวกันก็ช่วยปกป้องภูมิทัศน์ที่โดดเด่นผ่านโครงการด้านสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสม และยังช่วยดึงดูดให้โลกภายนอกหันมาให้ความสนใจเมือง ทำให้เมืองมีการวัดและติดตามสมรรถนะด้านความยั่งยืน และทำให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเข้ามามีส่วนร่วมและปฏิบัติตามกฎหมายและกฎระเบียบของเมือง
ในอนาคต เมืองแซปปาด้ามีการวางแผนเกี่ยวกับเมืองต่อไปอย่างไร และเมืองในประเทศสวิตเซอร์แลนด์จะมีการนำวัฒนธรรมนวัตกรรมไปส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนได้อย่างไร โปรดติดตามได้ในครั้งต่อไปซึ่งเป็นตอนจบค่ะ
ที่มา: https://www.iso.org/news/ref2323.html
Related posts
Tags: Standardization, Sustainability, Tourism
ความเห็นล่าสุด