การเปลี่ยนแปลงกระบวนการผลิตของอุตสาหกรรมรถยนต์แบบดั้งเดิมมาเป็นระบบการผลิตแบบอัจฉริยะด้วยระบบดิจิตอลและระบบอัตโนมัติเป็นสิ่งที่บริษัทรถยนต์จะต้องแข่งขันให้ได้ในอนาคต แล้วบริษัทชั้นนำอย่างฮุนไดได้ก้าวไปสู่จุดนั้นได้อย่างไร
เมื่อศตวรรษที่แล้ว วัฒนธรรมด้านรถยนต์ได้แผ่ขยายและเป็นที่นิยมไปทั่วโลก ซึ่งไม่เพียงแต่สร้างเศรษฐกิจในระดับโลกเท่านั้น แต่ยังมีผลต่อชีวิตความเป็นอยู่ของคนอีกนับล้านคนด้วย อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมยานยนต์ที่ยังทรงพลังอยู่ในปัจจุบันกำลังเผชิญหน้ากับการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในหลายด้าน เช่น ยานพาหนะระบบอัตโนมัติ รถยนต์อัจฉริยะที่เชื่อมต่อหรือสื่อสารกับสิ่งต่างๆ ได้ด้วยความเร็วสูง และรถไฟฟ้า เป็นต้น
แม้ว่าองค์กรจะมีกลยุทธ์ที่พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงที่ดีที่สุดแล้ว ก็ยังอาจจะล้มเหลวได้หากองค์กรธุรกิจไม่ได้เดินตามกลยุทธ์ที่วางไว้ด้วยตัวเอง ส่วนบริษัทที่ยังไม่ได้มีการเตรียมพร้อมที่ดีพอ ก็จำเป็นต้องเตรียมพร้อมสำหรับการนำผลิตภัณฑ์และบริการเข้าไปสู่ยุคดิจิตอล รวมทั้งเรื่องวิธีการที่จะทำให้สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ด้วย
ในการจับกระแสอนาคต ผู้ผลิตรถยนต์ไม่อาจมองเพียงแค่เครื่องมือแบบเดิมๆ เท่านั้น แต่จำเป็นจะต้องตัดสินใจเชิงกลยุทธ์เกี่ยวกับวิธีการสร้างรถยนต์ในอนาคตด้วย
สำหรับบริษัท ฮุนได มอเตอร์ ซึ่งมีมูลค่า 13.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ และติดอันดับแบรนด์มูลค่าสูงระดับโลกมาอย่างต่อเนื่อง ภายใต้แนวทาง “โมเดิร์น พรีเมียม” (Modern Premium: We exist to enhance the people’s lives) มีการทำงานที่เชื่อมโยงกับวิสัยทัศน์ในอนาคต และรวมถึงแผนการในการนำเอาแนวทางการผลิตระบบอัจฉริยะไปใช้เพื่อปรับปรุงกระบวนการผลิต
ปัจจุบัน โรงงานผลิตรถยนต์มาตรฐานมีการใช้ระบบหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีสารสนเทศ มอเตอร์อัจฉริยะ หรือเซ็นเซอร์ การควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์ และซอฟต์แวร์การบริหารจัดการการผลิตที่มีการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิผล
แนวคิดการผลิตแบบอัจฉริยะในอุตสาหกรรมอัตโนมัติ คือการเชื่อมโยงระหว่างกันในแต่ละขั้นตอนการผลิตเพื่อให้เกิดประสิทธิผลทั้งระบบ เกี่ยวกับเรื่องนี้ วารสารไอเอสโอโฟกัสได้สัมภาษณ์ Dr-Ing. InSung Chang ที่บริษัท ฮุนได มอเตอร์ เพื่อค้นหาว่าเทคโนโลยีอัจฉริยะทำงานในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมอัตโนมัติได้อย่างไร
เขากล่าวว่าแต่เดิมนั้น OEM เป็นที่รู้จักดีในอุตสาหกรรมและมีการทำเป็นระบบอัตโนมัติร่วมกันและมีการตรวจสอบเพื่อเพิ่มผลผลิตและคุณภาพซึ่งช่วยเพิ่มปริมาณการผลิตยานพาหนะที่ได้มาตรฐาน
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน รูปแบบรถยนต์ที่สั่งทำตามความต้องการของลูกค้ามีเพิ่มขึ้น ทำให้มีความท้าทายในการควบคุมคุณภาพ ค่าใช้จ่าย และกำหนดเวลาส่งมอบผลิตภัณฑ์ ในเมื่อการผลิตแบบแมสได้กลายเป็นการผลิตเพื่อลูกค้ากลุ่มเฉพาะมากขึ้น ความซับซ้อนในโรงงานผลิตจึงเพิ่มมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ถ้าบริษัทไม่มีการจัดการเพื่อแก้ปัญหาความซับซ้อนนี้ ก็จะไม่สามารถกำหนดผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงในราคาที่ยอมรับได้ และก็ไม่สามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืนเช่นกัน
ด้วยเหตุนี้ บริษัทจึงมุ่งไปที่ระบบการผลิตอัจฉริยะ โดยสร้างจากแนวคิดของโรงงานอัจฉริยะและผลิตภัณฑ์อัจฉริยะ ซึ่งทำให้เกิดรูปแบบของสภาพแวดล้อมการผลิตที่ต้องใช้ระบบโลจิสติกส์จัดการตัวเองโดยไม่ต้องใช้คนเข้ามายุ่งเกี่ยว ระบบนี้เป็นที่รู้จักกันในนามของ “ระบบนิเวศอัจฉริยะ” (smart ecosystem) และเป็นสิ่งที่ลูกค้ามีความพึงพอใจในบริษัท ฮุนได มอเตอร์เป็นอย่างมาก
สำหรับบทความในตอนต่อไปซึ่งเป็นตอนจบ จะได้กล่าวถึงการใช้สมาร์ทแท็กในกระบวนการผลิตอันเป็นส่วนหนึ่งของแนวทางการผลิตอัจฉริยะ
ที่มา: https://www.iso.org/news/ref2344.html
Recent Comments