ในโลกที่มีการติดต่อเชื่อมโยงกัน นับวันจะยิ่งซับซ้อนมากขึ้น ระบบสาธารณสุขเต็มไปด้วยความท้าทายใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นความเครียดของประชากรโลก หรือการบริหารจัดการในอุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพ ดังนั้น มาตรฐานไอเอสโอจึงมีบทบาทสำคัญในการทำให้ผู้ป่วยได้รับความปลอดภัยและบริการที่ดี เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์การดูแลสุขภาพในยุคใหม่ซึ่งส่วนหนึ่งจำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นเครื่องมือในการดูแลสุขภาพด้วย
อย่างไรก็ตาม เพียงแค่การจัดการความเสี่ยงในอุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพเท่านั้นยังไม่เพียงพอ การป้องกันไม่ให้เกิดความเสี่ยงจะมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งในลำดับแรก และมีคนเพียงจำนวนหนึ่งเท่านั้นที่ยังคงดูแลสุขภาพให้แข็งแรงและอยู่ในภาวะปกติได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเข้าสู่อายุมากขึ้น ร่างกายก็เริ่มอ่อนแอลงและประสบกับความเจ็บป่วยมากน้อยต่างกันไป บางรายต้องเข้ารับการผ่าตัดข้อต่อ บางรายก็ต้องพักรักษาตัวในโรงพยาบาลหรือศูนย์ดูแลสุขภาพ เป็นต้น
ประชากรโลกต่างมีความคาดหวังว่าอุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพจะทำให้เรามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ เรามีความไว้วางใจในมืออาชีพด้านสุขภาพเมื่อเราอยู่ในภาวะที่ต้องให้สถานพยาบาลคอยดูแลเรา และอุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพจึงเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่เติบโตเร็วที่สุดของโลก
อุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพประกอบไปด้วยวิทยาศาสตร์การแพทย์ เทคโนโลยีชีวภาพ เครื่องมือแพทย์ บริการและเภสัชกรรม
การวิจัยโดยหน่วยงานศูนย์ข้อมูลนักเศรษฐศาสตร์ของดีลอยท์ระบุว่าในขณะที่ค่าใช้จ่ายประจำปีด้านสุขภาพมีสูงถึง 7.077 ล้านล้านเหรียญสหรัฐในปี 2015 และจะสูงขึ้นไปถึง 8.734 ล้านล้านเหรียญสหรัฐในปี 2020
ข้อมูลแสดงให้เห็นว่าประชากรสูงวัยที่เพิ่มขึ้นทั้งในสหรัฐอเมริกาและประเทศต่างๆ ทั่วโลกเกิดขึ้นควบคู่ไปกับค่าใช้จ่ายเฉลี่ยที่สูงขึ้นสำหรับการดูแลสุขภาพในแต่ละประเทศ
ข้อมูลจากนิตยสารฟอร์บส์ ระหว่างปี 2015 และ 2030 ระบุว่ามีการคาดการณ์ว่าจำนวนคนบนโลกนี้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปจะสูงขึ้นถึง 56% โดยจะเพิ่มจากจำนวนกว่า 900 ล้านคนไปเป็น 1.5 พันล้านคน และคาดว่าภายในปี 2050 ประชากรโลกที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปจะมีสูงถึง 2 พันล้านคน ลำพังในประเทศสหรัฐอเมริกาเพียงประเทศเดียว ภายในปี 2060 จำนวนประชากรที่มีอายุมากกว่า 65 ปีก็มีเกือบ 100 ล้านคนแล้ว
จำนวนผู้สูงวัยจากข้อมูลดังกล่าวนับว่าเป็นตัวเลขที่สูงมาก ซึ่งแสดงให้เห็นว่าอุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพจะต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ในอนาคต เนื่องจากประชากรทั่วโลกกำลังเข้าสู่ภาวะสูงวัยแต่จะไม่เท่ากันในแต่ละประเทศ
อาหารที่ผ่านกระบวนการต่างๆ ได้นำไปสู่การเกิดโรค เช่น โรคอ้วน โรคหัวใจ และโรคเบาหวาน ดังนั้น อุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพจะต้องมีแนวทางในการดูแลแก้ไขปัญหาสุขภาพเชิงสร้างสรรค์ด้วย
ดังนั้น เมื่อระบบการดูแลสุขภาพตกอยู่ภายใต้แรงกดดัน จึงจำเป็นต้องมั่นใจว่าความปลอดภัยของผู้ป่วยจะยังคงมีมาตรฐานในระดับเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ความผิดพลาดและเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดอาจเกิดขึ้นได้ในกระบวนการทางการแพทย์ ซึ่งองค์การอนามัยโลกมีข้อมูลสถิติของสหภาพยุโรปว่าเกิดเหตุการณ์เช่นนั้นราว 8 – 12% ในการรักษาพยาบาล โดยมีค่าเฉลี่ยราว 1 ในผู้ป่วย 20 คนในโรงพยาบาลเกิดการติดเชื้อทุกๆ ปีหรือราว 4.1 ล้านคนในแต่ละปี ซึ่งสำนักงานตรวจสอบแห่งชาติของประเทศสหราชอาณาจักรประมาณการค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการติดเชื้ออยู่ที่ราว 1 พันล้านปอนด์ต่อปี
จากการตีพิมพ์ผลการสำรวจระดับโลกในหัวข้อ The Implant Files ของ International Consortium of Investigative Journalists (ICIJ) พบว่าเกิดข้อผิดพลาดจากการใช้อวัยวะเทียมในผู้ป่วยโดยมีการกล่าวอ้างว่าเนื่องจากไม่ได้มีการทดสอบก่อนนำเข้าสู่ตลาด
ซึ่งอุปกรณ์ทางการแพทย์นับวันจะทวีความสำคัญมากขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้สูงวัยในยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่สี่ เทคโนโลยีใหม่จะไม่เพียงแต่ทำให้เกิดนวัตกรรมทางการแพทย์เท่านั้น แต่ยังต้องให้ความสำคัญกับข้อมูลส่วนบุคคลและความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลด้วย ทำให้การบริหารจัดการความเสี่ยงด้านการดูแลสุขภาพมีความซับซ้อนขึ้นไปอีก
ระบบการจัดการความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพจึงเป็นเครื่องมือที่มีความจำเป็นในการลดความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับอุปกรณ์ทางการแพทย์ รวมทั้ง ความเสี่ยงที่เกิดจากการความผิดพลาดของมนุษย์ มีมาตรฐานไอเอสโอหลายมาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับการจัดการความเสี่ยงในอุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพ เช่น ISO 14971 – Medical devices – Application of risk management to medical devices, ISO 22367 – Medical laboratories –Reduction of error through risk management and continual improvement และ ISO 35001 – Biorisk management for laboratories and other relate organizations
มาตรฐานดังกล่าวจะช่วยจัดการความเสี่ยงในอุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพได้อย่างไร โปรดติดตามในตอนต่อไปค่ะ
ที่มา: 1. https://www.iso.org/news/ref2370.html
2. http://tmi.or.th/jtmi/wp-content/uploads/2017/07/2017-1-5-Thailand-Health-4.0.pdf
Related posts
Tags: Health, Healthcare Equipment & Services, Standardization
ความเห็นล่าสุด