• Home
  • Contact Us
  • masci.or.th
Guest Edition 
TH
EN
Log in
Close
Lost your password?
MASCI Innoversity
  • Standardization
  • Future Management
    • Future Watch
    • Scenario Planning
    • Trend
      • Economic
      • Environment
      • Politic
      • Social
      • Technology
  • Strategic Management
    • Management Strategy
    • Risk Management
  • Sustainability Management
    • Economy
      • Quality Management
      • Business Continuity Management
      • Productivity Management
      • Innovation Management
    • Environment
      • Environmental Management
      • Carbon Management
      • Water Management
      • Energy Management
    • Social
      • Social Responsibility
      • Occupational Health and Safety Management
      • Labour Management
      • Community Management
  • Sufficiency Economy


TAKE A TOUR



Popular Views

  • ทำไมต้องรู้เรื่อง ISO 45001 ตอนที่ 1ทำไมต้องรู้เรื่อง ISO 45001 ตอนที่ 1
    16,005 view(s)
  • ประกาศแล้ว ISO/IEC 17025: 2017ประกาศแล้ว ISO/IEC 17025: 2017
    15,149 view(s)
  • ปรับปรุงล่าสุด – มาตรฐานอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ ISO 13485ปรับปรุงล่าสุด – มาตรฐานอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ ISO 13485
    10,532 view(s)
  • ใหม่ล่าสุด ISO 14004: 2016 เสริมการใช้งาน ISO 14001ใหม่ล่าสุด ISO 14004: 2016 เสริมการใช้งาน ISO 14001
    10,366 view(s)
  • ISO 9004 หัวใจความสำเร็จของธุรกิจที่ยั่งยืนISO 9004 หัวใจความสำเร็จของธุรกิจที่ยั่งยืน
    10,225 view(s)

Most Comments

  • วาดฝันอนาคตของการตั้งครรภ์วาดฝันอนาคตของการตั้งครรภ์16 comment(s)
  • สมาร์ทโฟนใช้แทนกุญแจโรงแรมสมาร์ทโฟนใช้แทนกุญแจโรงแรม15 comment(s)
  • WhatsApp มีผู้ใช้ต่อเนื่องครบ 430 ล้านคนWhatsApp มีผู้ใช้ต่อเนื่องครบ 430 ล้านคน14 comment(s)
  • นิทานเซนกับปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ตอนที่ 1 ความสุขอยู่หนใดนิทานเซนกับปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ตอนที่ 1 ความสุขอยู่หนใด14 comment(s)
  • 20 นวัตกรรมด้านการแพทย์และยาที่กำลังจะมาในปี 2557 ตอนที่ 220 นวัตกรรมด้านการแพทย์และยาที่กำลังจะมาในปี 2557 ตอนที่ 214 comment(s)

Tag

Aerospace & Defense Agriculture Alternative Energy Automobiles & Parts Climate Change COVID-19 Economy Electronic & Electrical Equipment Energy Environment Environmental Management Financial Services Food & Beverages Future Management Future watch Health Health Care Equipment & Services Household Goods & Home Construction IEC Infrastructure Innovation ISO IT Management Strategy Media Pharmaceuticals & Biotechnology Politic Quality safety SDGs Security Social standard Standardization Standards Strategic Management Sustainability Sustainability Management Technology Telecommunications Travel & Leisure UN water water management Water Supply

Email Newsletter

Receive daily updates:

Sustainability Management | Environment | Carbon Management | — August 30, 2019 8:00 am
จากไฟป่าสู่ภาวะโลกร้อน วิกฤตที่ทั่วโลกต้องร่วมกันแก้ไข
Posted by Phunphen Waicharern with 2629 reads
0
  

shutterstock_218101447ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมประการหนึ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน และส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อระบบนิเวศ แต่เราอาจจะไม่ค่อยได้รับรู้มากเท่ากับเรื่องของมลพิษจากขยะพลาสติก ก็คือเรื่องของไฟป่าที่ทำลายชั้นบรรยากาศของโลก เมื่อกลางเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา มีรายงานข่าวต่างประเทศจากหลายสำนักได้เผยแพร่ข่าวการเกิดไฟไหม้ครั้งใหญ่โดยกล่าวว่า “ปอดของโลกกำลังเกิดเพลิงไหม้”

เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2562 สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นได้รายงานว่าไฟไหม้ที่เกิดขึ้นในเขตป่าฝนแอมะซอนนั้นเกิดขึ้นในอัตราสูงสุดนับตั้งแต่เปิดศูนย์วิจัยพื้นที่ของประเทศบราซิล หรือ INPE (Instituto Nacional de Pesquisas Espaciais) เมื่อปี 2556 (ค.ศ.2013) โดยที่ควันของเพลิงไหม้ได้ลอยไปไกลกว่า 17,000 ไมล์ถึงเมืองเซา เปาโล  ผู้คนสามารถมองเห็นควันไฟท่ามกลางแดดยามบ่ายซึ่งปกคลุมไปด้วยควันและขี้เถ้า สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนจากภาพถ่ายดาวเทียม โดยในปี 2562 เกิดเพลิงไหม้ในเขตป่าฝนจำนวน 72,843 ครั้งในพื้นที่มากกว่าครึ่งหนึ่งของป่าแอมะซอน และเพิ่มขึ้นมากกว่า 80% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว

ป่าแอมะซอนได้ชื่อว่าเป็นปอดของโลกซึ่งผลิตออกซิเจนถึง 20% ในชั้นบรรยากาศโลก และหากนับคร่าวๆ แล้วบริเวณป่าแอมะซอนนั้นเป็นบ้านของสัตว์และพืชจำนวนนับไม่ถ้วนซึ่งมีขนาดเท่ากับครึ่งหนึ่งของประเทศสหรัฐอเมริกา และเป็นป่าฝนที่ใหญ่ที่สุดของโลกด้วย

นอกจากนี้ ภาพจากโครงการดาวเทียมของสหภาพยุโรปที่มีชื่อโคเปอร์นิคัส ยังเผยแพร่แผนที่ซึ่งแสดงเพลิงไหม้และควันที่เกิดขึ้นแล้วกระจายไปทั่วประเทศบราซิลตลอดจนริมฝั่งทะเลแปซิฟิกตะวันออก ควันไฟนั้นปกคลุมเกือบครึ่งหนึ่งของประเทศและยังทะลักออกไปสู่ประเทศเพื่อนบ้าอย่างเปรู โบลิเวีย และปารากวัยด้วย

นักวิจัยของ INPE กล่าวว่า ฤดูแล้งสามารถสร้างสภาพที่เอื้อต่อการเกิดเพลิงไหม้และการขยายขอบเขตออกไป แต่การเกิดเพลิงไหม้นั้นมาจากน้ำมือของมนุษย์ ไม่ว่าจะเกิดขึ้นโดยบังเอิญหรือตั้งใจ

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้จะมาจากน้ำมือมนุษย์หรือไฟป่า แต่ผลที่เกิดขึ้นนั้นอาจรุนแรงเกินกว่าที่รัฐบาลหรือองค์กรใดจะรับมือได้ ซึ่งกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล หรือ WWF ( World Wide Fund for Nature) ได้ออกมาเตือนว่าหากป่าแอมะซอนเกิดเหตุเพลิงไหม้จนถึงจุดที่ไปไกลเกินกว่าจะกลับมาตั้งต้นใหม่ได้แล้ว ป่าฝนแอมะซอนอาจกลายเป็นพื้นที่ทุ่งหญ้าสะวันนาที่แห้งแล้ง ไร้ซึ่งสิ่งมีชีวิต และอาจกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการปล่อยก๊าซคาร์บอนซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

เรื่องของการเกิดเพลิงไหม้ในประเทศบราซิลซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ส่งผลต่อสิ่งแวดล้อม อาจจะทำให้รู้สึกว่าเป็นเรื่องไกลตัวเรา แต่หากย้อนกลับมาดูเรื่องของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลก จะพบว่าเราทุกคนต่างได้รับผลกระทบอย่างทั่วถึงและยังส่งผลไปถึงลูกหลานของคนทั้งโลกด้วย  และเพื่อช่วยแก้ไขปัญหานี้ องค์การสหประชาติจึงได้จัดทำ Roadmap to Climate Action โดยมีการจัดลำดับความสำคัญของปฏิบัติการที่จะแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยสนับสนุนด้านการเงิน การใช้เวลาเปลี่ยนแปลงไปสู่พลังงานหมุนเวียนและอุตสาหกรรมที่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม  การปรับตัว  และการจัดการกับผลกระทบและความเสี่ยงด้านสภาพภูมิอากาศ เป็นต้น โดยให้ความสำคัญในประเด็นที่จะส่งเสริมปฏิบัติการดังกล่าวรวม  3 เรื่อง ได้แก่ กลยุทธ์ในการลดผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศซึ่งรวมถึงการบรรลุเป้าหมายข้อตกลงปารีส การสร้างความตระหนักให้กับสาธารณชนและให้เยาวชนเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาดังล่าว  และการใช้พลังขับเคลื่อนด้านสังคมและการเมือง

องค์การสหประชาชาติให้ข้อมูลการวิเคราะห์ล่าสุดว่าถ้าทั่วโลกลงมือปฏิบัติการเดี๋ยวนี้ เราจะลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนลงได้ภายใน 12 ปี และโชคดีที่ทั่วโลกต่างให้ความร่วมมือในการทำตามข้อตกลงปารีสแล้ว ดังนั้น สิ่งที่ต้องทำต่อไปคือทุกภาคส่วนจะต้องจริงจังกับการลงมือปฏิบัติการแก้ไขปัญหาสภาพภูมิอากาศตั้งแต่บัดนี้   ซึ่งเลขาธิการองค์การสหประชาชาติได้เชิญชวนผู้นำทั่วโลกให้มาร่วมประชุมสุดยอดในชื่อ UN Climate Action Summit 2019 ที่เมืองนิวยอร์ก ในเดือนกันยายน 2562 โดยคาดว่าจะสามารถวางแผนงานที่รัดกุมและสามารถทำได้จริงด้วยการสนับสนุนให้ประเทศต่างๆ มีส่วนร่วมอย่างจริงจังภายในปีหน้าไปพร้อมๆ กับการลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 45% ภายใน 10 ปีข้างหน้าและลดลงได้อย่างสิ้นเชิง (0%) ภายในปี 2593 (ค.ศ.2050)

ที่มา: 1.https://edition.cnn.com/2019/08/21/americas/amazon-rainforest-fire-intl-hnk-trnd/index.html

         2. https://www.businessinsider.com/amazon-rainforest-fires-breaking-records-2019-8?r=US&IR=T



Related posts

  • ผู้บริหารทศวรรษหน้าในมุมมองของปีเตอร์ ดรักเกอร์ผู้บริหารทศวรรษหน้าในมุมมองของปีเตอร์ ดรักเกอร์
  • การสร้างองค์กรให้เป็น SFO ตอนที่ 5 การทบทวนวิสัยทัศน์ พันธกิจ และค่านิยมการสร้างองค์กรให้เป็น SFO ตอนที่ 5 การทบทวนวิสัยทัศน์ พันธกิจ และค่านิยม
  • ติดตามความคืบหน้าร่างมาตรฐาน ISO 9001: 2015 ตอนที่ 2ติดตามความคืบหน้าร่างมาตรฐาน ISO 9001: 2015 ตอนที่ 2
  • WHO ชี้ภัยใกล้ตัว ยาฆ่าแมลงตกค้างในอาหารWHO ชี้ภัยใกล้ตัว ยาฆ่าแมลงตกค้างในอาหาร
  • มาตรฐานการประเมินด้านสิ่งแวดล้อมสำหรับเครื่องจักรมาตรฐานการประเมินด้านสิ่งแวดล้อมสำหรับเครื่องจักร

Tags: Climate Change, Environmental Management, Sustainability Management

Click here to cancel reply.

Log in to join the conversation

You must be logged in to post a comment.

SUBSCRIBE

  • RSS FEED RSS FEEDSubscribe
  •  TwitterFollow us
  •  FacebookFan Page
  •  LinkedIn
  •  Youtube

Recent Comments

  • Phunphen Waicharern on แนะนำตึกสูงระฟ้าแห่งแรกของโลก ใช้พลังงานเป็นศูนย์
  • Phunphen Waicharern on ไอเอสโอพัฒนามาตรฐานเพื่อเศรษฐกิจหมุนเวียน
  • Naris Lapsunthornphitak on ไอเอสโอพัฒนามาตรฐานเพื่อเศรษฐกิจหมุนเวียน
  • Naris Lapsunthornphitak on แนะนำตึกสูงระฟ้าแห่งแรกของโลก ใช้พลังงานเป็นศูนย์
  • Naris Lapsunthornphitak on นวัตกรรมสีแห้งของไนกี้

Interesting Pages

  • (TH) landing page
  • Magazine
  • Take a Tour
  • Today Seminar
  • Contact Us

Categories

© Copyright 2023 — MASCI Innoversity. All Rights Reserved top ↑