บทความเรื่อง “มาตรฐานสากล” เปิดประตูสู่การค้าโลก ตอนที่ 1 ได้กล่าวถึง มาตรฐานไอเอสโอซึ่งเป็นมาตรฐานสากลที่เปรียบเสมือนใบผ่านทางเข้าไปยังประเทศต่างๆ เช่นเดียวกับหนังสือเดินทางของนักท่องเที่ยวที่ใช้ในการเดินทางไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลก ซึ่งสินค้าที่ส่งออกไปยังประเทศต่างๆ จำเป็นต้องมีเอกสารหลักฐานที่พิสูจน์อย่างเพียงพอว่าผลิตภัณฑ์นั้นผ่านข้อกำหนดหรือกฎเกณฑ์ของอีกประเทศหนึ่ง นอกจากนี้ องค์กรที่ทำหน้าที่เป็นหน่วยรับรอง จำเป็นต้องได้รับการรับรองระบบงานตามมาตรฐานสากลที่เกี่ยวข้องกับองค์กร เช่น ISO/IEC 17020, , ISO/IEC 17021, ISO/IEC 17065 เป็นต้น เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศคู่ค้าในการยอมรับร่วมในผลการตรวจสอบและรับรอง รวมทั้งสร้างความมั่นใจและความโปร่งใสทางการค้าด้วย

สำหรับบทความในตอนที่ 2 นี้จะยกกรณีตัวอย่างของวิธีปฏิบัติตามมาตรฐานที่ทั่วโลกยอมรับและช่วยเปิดประตูสู่การค้าโลกได้อย่างกว้างขวางมากขึ้นดังต่อไปนี้

ตัวอย่างของวิธีปฏิบัติที่ได้ผลคือเครื่องเหมาย Energy Star ซึ่งเป็นหนึ่งในการติดฉลากที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดของโลกด้านประสิทธิภาพพลังงาน มีการเปิดตัวโครงการตามความสมัครใจโดยสำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อมของสหรัฐอเมริกา (US EPA) เมื่อปี 2535 (ค.ศ1992) และขยายตัวอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นตัวเปรียบเทียบที่ใช้ร่วมกันสำหรับเกือบทุกครัวเรือนในสหรัฐอเมริกา อย่างไรก็ตาม เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้ามากขึ้น สำนักงาน EPA จึงนำโครงการประเมินความสอดคล้องไปใช้เมื่อปี 2554 (ค.ศ.2011) ซึ่งหมายความว่าในการที่จะติดฉลาก Energy Star ผลิตภัณฑ์จะต้องได้รับการทดสอบในห้องปฏิบัติการของ EPA และได้รับการทบทวนโดยหน่วยรับรองที่ EPA ยอมรับด้วย

การที่จะเป็นห้องปฏิบัติการ EPA ที่ได้รับการยอมรับ จำเป็นต้องมีการรับรองระบบงานตามมาตรฐาน ISO/IEC 17025 ซึ่งเป็นมาตรฐานสากลที่ใช้อ้างอิงสำหรับห้องปฏิบัติการทดสอบ ส่วนหน่วยรับรองจำเป็นต้องได้รับการรับรองระบบงานตามมาตรฐาน ISO/IEC 17065

เงื่อนไขต่อไปคือหน่วยงานที่ให้การรับรองระบบงานตามมาตรฐาน ISO/IEC 17025 และ ISO/IEC 17065 จำเป็นต้องมีการลงนามตามความตกลงการยอมรับรองของ ILAC หรือตามความตกลงการยอมรับพหุพาคีของ IAF และในการทำเช่นนั้น หน่วยรับรองระบบงานจำเป็นต้องมีการประเมินแบบเพื่อนช่วยเพื่อนตามมาตรฐาน ISO/IEC 17011, Conformity assessment – Requirements for accreditation bodies accrediting conformity assessment bodies

โชคดีที่มีการยอมรับระดับสากลของมาตรฐานเหล่านั้น ซึ่ง EPA สามารถกำหนดความตกลงหุ้นส่วนของตนเองกับประเทศต่างๆ เช่น แคนาดา ญี่ปุ่น สหภาพยุโรป สวิตเซอร์แลนด์ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ซึ่งทำให้เกิดการยอมรับอย่างกว้างขวางมากขึ้นในผลิตภัณฑ์ที่ติดฉลาก Energy Star ไปทั่วโลกและทำให้มียอดขายที่เติบโตขึ้น

บราฮิม อูลา ประธานคณะกรรมการการตลาดและการสื่อสารของ IAF กล่าวว่าด้วยผู้ควบคุมกฎ อุตสาหกรรม และผู้บริโภคมีการมองอนาคตโลกมากขึ้น ความจำเป็นในการทำให้เข้ากันของโครงการประเมินความสอดคล้องระหว่างเศรษฐกิจระดับสากลจึงเป็นมุมมองที่จำเป็นสำหรับการค้า หากปราศจากสิ่งนี้ ก็จะเกิดความซ้ำซ้อนโดยไม่จำเป็นในการทดสอบซ้ำๆ จนกว่าจะเป็นที่พอใจซึ่งจะทำให้เกิดความล่าช้าโดยไม่จำเป็น ณ จุดที่นำเข้าสินค้าซึ่งเป็นจุดที่ให้บริการและเกิดวิกฤตด้านเวลาและทำให้สินค้าเกิดการเน่าหรือเสียหายได้

จอน เมอร์ธี ประธานคณะกรรมการการตลาดและการสื่อสารของ ILAC กล่าวเสริมว่าความตกลงที่ได้รับการยอมรับในระดับระหว่างประเทศทำให้มีการประกันคุณภาพของ CABs ในประเทศต่างๆ ซึ่งปฏิบัติงานตามมาตรฐานสากลที่ได้รับการยอมรับเหมือนๆ กัน

ระบบการยอมรับร่วมของการประเมินความสอดคล้องตามข้อตกลงของ IAF และ ILAC เป็นการส่งเสริมระบบการทดสอบตามมาตรฐานสากลครั้งเดียว และผลของการทดสอบได้รับการยอมรับไปทั่วโลก เมื่อได้รับการรับรองหรือได้รับการรับรองระบบงานจากโครงการและหน่วยงานที่ได้รับการยอมรับแล้วอาจเป็นการง่ายสำหรับองค์กรใหญ่ ความจริงที่ว่าผลิตภัณฑ์ที่มีการค้าระหว่างประเทศหลายอย่าง เช่น ผลไม้และผัก มีการผลิตโดยฟาร์มเล็กๆ ในประเทศกำลังพัฒนา การตอบสนองต่อข้อกำหนดที่เข้มแข็งของตลาดสากลจึงไม่ใช่งานที่ง่ายเลย แต่ต้องขอบคุณโครงการต่างๆ ที่มีอยู่ซึ่งช่วยให้ฟาร์มเหล่านี้ก้าวข้ามอุปสรรคต่างๆ ไปได้ เช่น โครงการที่เรียกว่า Standards and Trade Development Facility: STDF ซึ่งเป็นหุ้นส่วนระดับโลกของ WTO ที่ช่วยประเทศกำลังพัฒนาให้มีการเข้าถึงตลาดสากลด้วยการปิดช่องว่างด้านสุขอนามัยและสุขอนามัยพืชให้ได้  หนึ่งในวิธีที่ใช้คือการช่วยให้ฟาร์มเหล่านั้นรับเอามาตรฐานสากลไปใช้

ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่น่าภูมิใจ การทำงานของโครงการฯ กับผู้ผลิตผักและผลไม้ขนาดเล็ก ผู้ผลิตผักและผลไม้ที่ผ่านกระบวนการ และผู้ค้าในประเทศไทยและเวียตนาม ได้ช่วยให้ผู้ส่งออกเวียตนามได้รับใบรับรองตามมาตรฐาน ISO 22000 การเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ STDF ทำให้เขากลายเป็นผู้เปลี่ยนแปลงเกมการทำงานในบริษัทผู้ส่งออก การได้รับการรับรอง HACCP และ ISO 22000 นับว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้บริษัทก้าวไปได้ไกลโดยสามารถส่งออกผักและผลไม้ไปยังสหภาพยุโรป ญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกาได้

การอ้างอิงมาตรฐานสากลตามมาตรการที่ไม่ใช่ภาษียังสามารถลดค่าใช้จ่ายให้น้อยลงสำหรับผู้ผลิตด้วยการขจัดการทดสอบและกระบวนการการรับรองที่มีความซ้ำซ้อนออกไปเพื่อให้สามารถตอบสนองข้อกำหนดที่แตกต่างกันของตลาดในประเทศและต่างประเทศด้วย

นอกจากนี้ การได้รับการรับรองระบบงานและการประเมินความสอดคล้องยังเป็นการอำนวยความสะดวกทางการค้าและทำให้คงความมั่นใจในผลิตภัณฑ์และบริการเอาไว้ ซึ่งกรณีศึกษาของประเทศนิวซีแลนด์ซึ่งบริษัทที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ NZIER ได้ทำการวิจัยขึ้นมาและแสดงให้เห็นว่าการได้รับการรับรองระบบงานเป็นการอำนวยความสะดวกให้ผู้ส่งสินค้าออกถึงมากกว่า 56% ด้วยมูลค่า 27.6 พันล้านเหรียญดอลลาร์นิวซีแลนด์

จากกรณีตัวอย่างจากการได้ลิ้มรสมะม่วงอันเลิศรสในต่างประเทศประเทศไปจนถึงการส่งเสริมเศรษฐกิจระดับประเทศ ผลประโยชน์ของการประเมินความสอดคล้องในการค้าระหว่างประเทศจึงมีความชัดเจนมาก  การทดสอบสินค้าที่มีการทำอย่างสมบูรณ์ถูกต้อง จะทำให้ทั่วโลกมีความเชื่อถือในผลทดสอบทุกครั้ง

ที่มา: https://www.iso.org/news/ref2429.html

Related posts

• เติบโตอย่างยั่งยืนด้วยมาตรฐาน ISO 13065
• มาตรฐานไอเอสโอที่ช่วยรับมือเมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้
• 16 พฤษภาคม “วันสากลแห่งแสง”
• มาตรฐานสากลเพื่ออาหารปลอดภัย
• โลหะซ่อมแซมตัวเองได้ในระดับนาโน

Tags: Economy, ISO, Standardization