การดูแลสุขภาพและความเป็นอยู่เป็นสิ่งที่นับวันจะยิ่งมีความสำคัญมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในภาวะที่เกิดโรคระบาดไวรัสโคโรนาและมนุษย์เราต้องต่อสู้กับโรคภัยต่างๆ รวมทั้งความเครียดเช่นทุกวันนี้ ในขณะเดียวกันการเดินทางไปติดต่อกับผู้อื่นก็ยังคงเป็นสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวันอยู่ ดังนั้น หนทางหนึ่งที่จะเพิ่มประสิทธิภาพเพื่อกิจกรรมทางกายภาพและการเดินทางประจำวันของเราก็คือ การปั่นจักรยานนั่นเอง
โชคดีที่จักรยานไฟฟ้า (Electrically Power-Assisted Cycles: EPACS) กำลังมาแรง และช่วยปูทางให้เราสามารถดำเนินกิจกรรมเพื่อสุขภาพและการเดินทางได้อย่างมีประสิทธิภาพ เรื่องที่จะบอกกล่าวต่อไปนี้คือสิ่งที่น่ารู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีนี้และวิธีการที่ไอเอสโอช่วยให้เรามั่นใจว่าจะสามารถก้าวไปสู่ความมีสุขภาพดีในวิธีที่ปลอดภัยที่สุดเท่าที่จะเป็นได้
เมืองอัจฉริยะทั่วโลกต่างยอมรับว่าการปั่นจักรยานเป็นการส่งเสริมวิถีชีวิตที่มีสุขภาพดีแบบเรียบง่ายและช่วยให้เกิดการเดินทางที่ยั่งยืน
เป็นที่คาดการณ์ว่าตลาดโลกสำหรับจักรยานไฟฟ้าจะมีการเติบโตอย่างรวดเร็วอันเนื่องมาจากการความชื่นชอบของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากเป็นทางเลือกที่ดีต่อสิ่งแวดล้อมสำหรับการเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ
จักรยานไฟฟ้าเป็นที่นิยมมากในเอเชียซึ่งเป็นตลาดจักรยานไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก ปัจจุบัน มีผู้ใช้งานมากกว่าสองล้านคัน ตามมาด้วยยุโรปและสหรัฐอเมริกา ตลาดจึงยังคงเล็กมากสำหรับภูมิภาคอื่นๆ ในโลกนี้ และเมื่อคนจำนวนมากได้ตระหนักถึงประโยชน์ของจักรยานที่มีคุณค่าอย่างมากมายหลายประการ อัตราการใช้งานจึงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
ก่อนอื่น เรามาทำความรู้จักกับจักรยานไฟฟ้าก่อน มันเป็นพาหนะสองล้อที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานของคนและมีตัวช่วยคือมอเตอร์ไฟฟ้า หมายความว่ามันคือจักรยานที่มีมอเตอร์ไฟฟ้า มีแบตเตอรี่ที่ชาร์จได้ และเครื่องมือบางอย่างที่รวมเข้าไว้โดยใช้แรงผลักให้ขับเคลื่อน เมื่อเราพยายามที่จะทำให้มันเคลื่อนที่ แต่ขาหรือเข่าของเราไม่มีแรงพอ เราอาจรู้สึกท้อ และยิ่งเราอายุมากขึ้น ก็อาจจะมีสมรรถนะน้อยลงในการใส่กำลังขาของเราลงไปในการปั่นจักรยาน แต่ไม่ต้องกังวลในเรื่องนี้เพราะจักรยานไฟฟ้าช่วยเราได้ มันทำให้เราเริ่มออกกำลังกายได้อีกครั้งได้ง่ายขึ้นโดยไม่ต้องกังวลว่าจะเหนื่อยมากจนเกินไป มอเตอร์ไฟฟ้าจะเป็นตัวช่วยให้เราเดินทางไปในทุกๆ ที่ที่อยากไป
เมื่อใดก็ตามที่เริ่มปั่นจักรยานไฟฟ้า มอเตอร์เล็กๆ จะทำให้เรามีพลังพิเศษเพิ่มขึ้น เราจะมีอิสระในการควบคุมความเร็วด้วยกำลังขาของเรา และเร่งความเร็วได้ง่ายขึ้น แม้ว่าระหว่างทาง เราอาจเจอพื้นถนนที่ขรุขระ ทำให้เดินทางยากลำบาก หรือมีจุดหมายปลายทางที่ค่อนข้างไกล แต่จักรยานไฟฟ้าจะเป็นตัวช่วยให้เราประหยัดเวลา พลังงาน และสามารถเดินทางไปที่หมายได้เป็นอย่างดี
การปั่นจักรยานเพื่อการเดินทางไปพักผ่อนหย่อนใจยังเป็นการสนับสนุนวัฒนธรรมของชุมชนในท้องถิ่นด้วย การเดินทางด้วยจักรยานทำให้เรามีอิสระและรู้สึกผ่อนคลายอย่างที่ไม่สามารถเป็นได้หากใช้ยานพาหนะแบบอื่น มันทำให้เรามีอิสระในการเดินทางท่องเที่ยวไปยังสถานที่ต่างๆ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการเติมน้ำมันและการจราจรที่ติดขัด ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีอิสระที่จะสนุกสนานกับทุกสิ่งรอบตัว และหากออกแรงปั่นจักรยานมากพอ เราก็จะได้รับประโยชน์ด้านสุขภาพด้วย
PeopleForBikes สมาคมอุตสาหกรรมผู้ผลิตจักรยานและผู้ขี่จักรยานในสหรัฐอเมริกาได้ศึกษาเรื่องเกี่ยวกับสถิติการใช้จักรยานซึ่งสะท้อนความตระหนักที่เพิ่มขึ้นจากการใช้ประโยชน์ของจักรยานไฟฟ้ารวมทั้งตลาดที่เติบโตขึ้นทั่วทุกมุมโลก
สเตฟาน เบรกเกรน วิศวกรอาวุโสด้านความสอดคล้องผลิตภัณฑ์ของเทรคไบซีเคิล ผู้ผลิตจักรยานและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับจักรยานกล่าวว่า อันที่จริงแล้ว เรื่องเทคโนโลยีของจักรยานไฟฟ้านั้น ตรงกันข้ามกับความเชื่อที่ว่าเทคโนโลยีได้ขโมยวิถีชีวิตมนุษย์ของเราไป แต่จริงๆ แล้วสิ่งนี้กลับส่งเสริมให้เราใช้ชีวิตได้ดีขึ้น การใช้จักรยานเป็นตัวช่วยด้านพลังงานให้เราเปิดประตูบานใหม่แห่งโอกาสและทำให้คนมีอิสระมากขึ้นในแง่ของการเดินทางติดต่อ การปฏิวัติเช่นนี้ทำให้คนได้มีโอกาสใช้ประโยชน์ของจักรยานไปเพื่อการเดินทางขนส่งหรือการพักผ่อนหย่อนใจมากขึ้น
การปั่นจักรยานปกติแล้วจะช่วยปรับปรุงระบบภูมิคุ้มกันและกระตุ้นการหลั่งสารเอนโดฟินและโดปามีนในสมองซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ช่วยส่งเสริมความสุขกายสบายใจและช่วยรักษาสุขภาพร่างกายให้ดี ไม่ต้องแปลกใจเลยว่าหลังจากการขี่จักรยานที่หนักหน่วงซึ่งทำให้หัวใจได้ทำงานที่เสริมความแข็งแรงแล้ว ทุกคนกลับมีรอยยิ้มที่เปี่ยมสุข
นอกจากนี้ การปั่นจักรยานยังดีต่อกล้ามเนื้อทุกส่วนนับตั้งแต่ศีรษะจนถึงปลายเท้า ซึ่งช่วยพัฒนากำลังของกล้ามเนื้อขาส่วนล่างและสะโพกให้มีความแข็งแกร่งมากขึ้น และส่งเสริมการหมุนเวียนของโลหิตและระบบน้ำเหลืองด้วยการทำงานของกล้ามเนื้อที่ลึกลงไปและมวลกล้ามเนื้อ
สำคัญที่สุดคือ เมื่อเราปั่นจักรยานเป็นประจำจะช่วยลดความเสี่ยงของความเจ็บป่วยเรื้อรังและโรคภัยอื่นๆ ที่รุนแรงกว่านี้ เช่น เบาหวาน มะเร็ง โรคหัวใจและหลอดเลือด และแม้แต่โรคอัลไซเมอร์และพาร์กินสัน มีงานวิจัยแนะนำว่าการปั่นจักรยานไฟฟ้ามีส่วนช่วยให้สุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจดีขึ้น โดยสรุป การปั่นจักรยานวันละครั้งจะช่วยแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับโรคหัวใจและหลอดเลือด โรคทางเดินหายใจ โรคเกี่ยวกับระบบประสาท โรคมะเร็ง โรคเกี่ยวกับระบบการเผาผลาญอาหาร และโรคไขข้อ แน่นอนว่าหลังจากได้พยายามปั่นจักรยานอย่างเต็มที่แล้ว เราก็จะนอนหลับได้ดีขึ้น
การปั่นจักรยานเริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้นทั้งในด้านการแข่งขัน กีฬา การพักผ่อน และแนวโน้มที่เกิดขึ้นคือจักรยานไฟฟ้าเริ่มเข้ามาในตลาดในฐานะที่เป็นการเดินทางที่ยั่งยืน การศึกษาจากมหาวิทยาลัยพอร์ทแลนด์ระบุว่าจักรยานไฟฟ้าช่วยกระตุ้นให้คนที่เพิ่งเริ่มต้น หันมาปั่นจักรยานมากขึ้น และคนที่ชื่นชอบจักรยานอยู่แล้วก็จะหันมาปั่นจักรยานมากขึ้น และเป็นที่น่าสังเกตว่าคนจะรู้สึกปลอดภัยมากขึ้นเมื่อขี่จักรยานไฟฟ้า และการศึกษาเดียวกันนี้ยังพบว่ามันทำให้จักรยานเข้ามาแทนที่การเดินทางด้วยรถยนต์ซึ่งเป็นทางเลือกสำหรับการเดินทางที่ยั่งยืนด้วย
อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกของผู้ที่ชื่นชอบจักรยานรวมทั้งจักรยานไฟฟ้าซึ่งคิดว่ามีความปลอดภัยนั้น แท้จริงแล้ว อาจมีอันตรายจากอุบัติเหตุที่เราคาดไม่ถึงอยู่ด้วย รายละเอียดจะเป็นอย่างไร โปรดติดตามได้ในครั้งต่อไปค่ะ
ที่มา: https://www.iso.org/news/isofocus_141-2.html
Related posts
Tags: Culture, cycling, EPACS, ISO, Leisure, Risk, safety, Standardization, Wellness
Recent Comments