การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์มีแนวโน้มที่จะเจริญเติบโตมากขึ้น ข้อมูลเมื่อปี 2562 ระบุว่าผู้ป่วยจำนวน 250,000 คนได้เดินทางข้ามพรมแดนเพื่อเข้ารับการรักษาทางการแพทย์ ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสุขภาพฟันหรือการทำศัลยกรรมเพื่อความงาม ไปจนถึงเข้ารับการดูแลรักษาโรคจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในสาขาต่างๆ ไอเอสโอตระหนักถึงความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปท่องเที่ยวเพื่อจุดประสงค์ด้านการแพทย์ดังกล่าว จึงได้พัฒนามาตรฐานการท่องเที่ยวทางการแพทย์ขึ้นมาเพื่อช่วยให้นักท่องเที่ยวได้รับความปลอดภัยอย่างแท้จริง
ตลาดการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ นับตั้งแต่การผ่าตัดหัวเข่าไปจนถึงการผ่าตัดเสริมจมูก มีการเติบโตเพิ่มขึ้นมาก เมื่อปี 2562 เพียงปีเดียว มีมูลค่าตลาดสูงถึง 44.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ ถึงแม้ว่าการท่องเที่ยวโดยรวมจะได้รับผลกระทบจากโรคระบาดไวรัสโคโรนาก็ตาม แต่ในระยะยาวแล้ว ตลาดการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ยังคงมีแนวโน้มที่จะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น หนังสือคู่มือแนะนำการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ Patients Beyond Borders ได้รายงานว่าตลาดการท่องเที่ยวทางการแพทย์ขยายตัวเพิ่มขึ้นเนื่องจากประชากรอายุยืนมากขึ้นและค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาทางการแพทย์มีราคาถูกลง และไม่ต้องรอคอยเป็นเวลานาน จึงเป็นอีกทางเลือกให้กับผู้ที่ต้องการได้รับการดูแลรักษาที่มีประสิทธิภาพไปพร้อมกับการเปิดโลกท่องเที่ยวในต่างแดน
ในการเข้าถึงกระบวนการทางการแพทย์ในต่างประเทศ คนไข้อาจมองหาโรงพยาบาลเอกชนทางออนไลน์ รวมทั้งการผ่าตัด แพทย์ การดูแลรักษาและกระบวนการฟื้นฟูโดยไม่ต้องปรึกษากับเอเจนซี่ท่องเที่ยวหรือแพทย์ในท้องถิ่นก่อน ไอเอสโอตระหนักถึงความเสี่ยงตามแนวทางดังกล่าว จึงมีเป้าหมายในการทำให้แน่ใจว่ามาตรฐานสากลจะครอบคลุมวิธีปฏิบัติที่ดีที่สุดสำหรับคู่มือขั้นตอนทางการแพทย์ การบริหารจัดการความเสี่ยงทางคลินิก ความปลอดภัย และผลลัพธ์สำหรับผู้ป่วยที่เป็นนักท่องเที่ยวเหล่านั้น
คณะกรรมการวิชาการไอเอสโอ ISO/TC 228, Tourism and related services อยู่ในระหว่างการพัฒนามาตรฐาน ISO 22525, Tourism and related services – Medical tourism – Service requirements ซึ่งสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติในข้อที่ 3 เรื่องสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี (Good Health and Well-Being) และคาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนธันวาคม 2563
ดร.โมนิก้า ฟิเกอโรลา มาร์ติน ผู้ประสานงานคณะกรรมการวิชาการไอเอสโอ ISO/TC 228 กลุ่มงาน WG 2, Health tourism services ได้เล่าให้ฟังถึงประสบการณ์การทำงานว่าจากการเป็นหัวหน้างานพัฒนาธุรกิจสากลที่โรงพยาบาลกีรอนซาลุดในสเปนและเคยดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการของสเปนแคร์ซึ่งเป็นศูนย์การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของสเปนเป็นเวลา 2 ปี รวมทั้งจบปริญญาเอกสาขาการท่องเที่ยว จึงทำให้สนใจงานด้านการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ของไอเอสโอ และได้รับคำแนะนำจาก UNE ซึ่งเป็นสถาบันมาตรฐานแห่งชาติของประเทศสเปน ให้เข้าร่วมทำงานด้วย
ดร.โมนิก้ากล่าวว่าในระหว่างที่เดินทางท่องเที่ยวอยู่ นักท่องเที่ยวอาจจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือทางการแพทย์แบบเร่งด่วนโดยไม่ได้วางแผนมาก่อน แต่นักท่องเที่ยวที่มาเข้ารับการรักษาจะมีการวางแผนด้านการรักษามาแล้วในประเทศหนึ่งและได้เตรียมตัวล่วงหน้ามาแล้วสำหรับการเดินทางท่องเที่ยว รวมทั้งด้านที่พัก การผ่าตัดหรือการรักษารวมทั้งการฟื้นฟูสุขภาพด้วย
สำหรับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของการแพทย์เชิงท่องเที่ยวมีอยู่เป็นจำนวนมากและกำลังมีเพิ่มขึ้น ทั้งรายใหญ่และรายเล็กที่ยังไม่ค่อยมีชื่อเสียง แต่ก็ต้องรองรับผู้ป่วยจากทั่วโลก ทำให้เกิดประเด็นของความเหมาะสมของโครงสร้างพื้นฐานและชื่อเสียงของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและความโปร่งใสของการส่งมอบบริการ ซึ่งผู้ให้บริการจำเป็นต้องมีการประกันคุณภาพและการสร้างความเชื่อถือให้กับผู้รับบริการด้วย
คณะกรรมการวิชาการไอเอสโอรู้ดีว่าจำเป็นต้องจำกัดผู้ให้บริการที่ไม่สามารถตอบสนองต่อแนวทางได้เพื่อให้คนไข้ทั่วโลกลดความเสี่ยงจากการรับบริการที่ไม่มีคุณภาพและได้รับการดูแลที่ดีที่สุดซึ่งจะเป็นวิธีเดียวเท่านั้นที่จะส่งมอบประสบการณ์ที่ดีให้กับคนไข้และทำให้มั่นใจว่าภาคการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์จะมีตลาดที่เติบโตขึ้น ประสบความสำเร็จและได้รับผลลัพธ์ที่ดีขึ้นทั้งในแง่ของการเงินและด้านสุขภาพ
สำหรับมาตรฐาน ISO 22525 ครอบคลุมเรื่องใดบ้างและอนาคตของการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์จะมีแนวโน้มเป็นอย่างไร โปรดติดตามได้ในบทความครั้งต่อไปซึ่งเป็นตอนจบค่ะ
ที่มา: https://www.iso.org/news/isofocus_141-3.html
Related posts
Tags: Healthcare, ISO, Medical Tourism, Quality, Risk, Standardization, Wellness
Recent Comments