บทความ เรื่อง ไอเอสโอพัฒนามาตรฐานการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ ตอนที่ 1ได้กล่าวถึงความต้องการที่เพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปท่องเที่ยวเพื่อจุดประสงค์ด้านการแพทย์ ซึ่งทำให้ไอเอสโอได้พัฒนามาตรฐาน ISO 22525, Tourism and related services – Medical tourism – Service requirements ขึ้นมาโดยคณะกรรมการวิชาการไอเอสโอ ISO/TC 228, Tourism and related services โดยมี ดร.โมนิก้า ฟิเกอโรลา มาร์ติน  เป็นผู้ประสานงานที่มีประสบการณ์ด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เป็นผู้ให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง   สำหรับบทความในตอนนี้ ดร.โมนิก้า จะได้กล่าวถึงมาตรฐาน ISO 22525 ว่าครอบคลุมเรื่องอะไรบ้าง และอนาคตของการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์จะมีแนวโน้มเป็นอย่างไร  ดังต่อไปนี้

สำหรับมาตรฐาน ISO 22525  กลุ่มงานไอเอสโอได้มุ่งเน้นไปที่ประสบการณ์ของผู้รับบริการซึ่งมี 4 ด้านหลักๆ ด้วยกัน ได้แก่ การเตรียมการก่อนการเดินทางและก่อนการรักษา กระบวนการรักษาด้วยการผ่าตัดหรือไม่ได้ผ่าตัด กระบวนการหลังการรักษา และการฟื้นฟูและกลยุทธ์การติดตามรวมทั้งการดูแลหลังจากคนไข้กลับบ้านแล้ว
มาตรฐานไอเอสโอนี้จะทำให้ศูนย์ดูแลสุขภาพและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทางการแพทย์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเชิงการแพทย์สามารถเข้าถึงการเปรียบเทียบที่จำเป็นเพื่อให้มั่นใจว่ามีการดูแลคุณภาพและความปลอดภัยของคนไข้เป็นอย่างดี

หลายประเทศมองเห็นศักยภาพของการมีส่วนร่วมการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ว่าเป็นการเพิ่มจำนวนผู้ป่วยที่ชอบเดินทางไปรักษายังต่างประเทศโดยมองเห็นว่าเป็นโอกาสที่สามารถทำเงินได้ดี

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่ากังวลก็คือ ผู้ป่วยหลายคนมีความรู้ในเรื่องของมาตรฐานสากลมากน้อยแค่ไหน และผู้ให้บริการได้เลือกที่จะตอบสนองตามมาตรฐานสากลหรือไม่ ทั้งนี้ หากจะทำให้ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงผลสำรวจหรือข้อมูลตอบกลับจากคนไข้อื่นๆ เกี่ยวกับผลลัพธ์ที่ได้จากการมีสุขภาพที่ดีขึ้น ไอเอสโอก็ต้องมีมาตรฐานในเรื่องการเตรียมตัวชี้วัดที่มีประสิทธิผลและปกป้องความปลอดภัยเพื่อผู้รับบริการด้วย

ปัจจุบัน มีแนวโน้มว่าจะมีคนที่เดินทางไปต่างประเทศมากขึ้นเพื่อเข้ารับการรักษาทางการแพทย์และการผ่าตัด
พวกเขาค้นหาการรักษาและการผ่าตัดที่ไม่สามารถหาได้ในประเทศของตนเอง หรือไม่มีผู้เชี่ยวชาญที่จะทำการรักษา นอกจากนี้ การรักษาในประเทศของตนเอง ยังมีค่าใช้จ่ายสูง และการประกันสุขภาพก็ไม่ครอบคลุม หรือต้องรอคิวเป็นเวลานาน

สิ่งที่คนเหล่านั้นต้องการคือการศัลยกรรมเพื่อความงาม ทันตกรรม  การผ่าตัดโรคหัวใจและหลอดเลือด  ศัลยกรรมกระดูก การรักษามะเร็ง การรักษาภาวะมีบุตรยาก เช่น การทำเด็กหลอดแก้ว และการรักษาผู้ป่วยโรคอ้วน คนจำนวนมากจึงเดินทางไปต่างประเทศเพื่อทำการตรวจวินิจฉัย กลั่นกรอง ทดสอบด้วยอุปกรณ์ทางการแพทย์ และการค้นหาความเห็นที่สองทางการแพทย์

ดร.โมนิก้ายังกล่าวด้วยว่าพวกเขาเริ่มมองเห็นความสนใจในการรักษาสุขภาพและการใช้สปาในการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นในบรรดาผู้รับบริการเหล่านั้น ซึ่งมีแนวโน้มจะใช้ทางการแพทย์น้อยลงแต่เป็นในเชิงรักษาบำบัดมากกว่าเนื่องจากคนมองว่าเป็นวิธีที่ไม่บั่นทอนจิตใจและยังนำไปสู่การมีสุขภาพที่ดีขึ้นด้วย

สำหรับแนวโน้มอนาคตของการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์นั้น ดร.โมนิก้ากล่าวว่าในช่วงเวลาของโรคระบาด COVID-19 เช่นนี้ การวางแผนการเดินทางเชิงการแพทย์มีความท้าท้ายเป็นพิเศษ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าปัจจัยสำคัญที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยวเชิงการแพทย์จะยังคงเป็นเรื่องของวิธีการเลือกสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการดูแลสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีในการเดินทางเพื่อให้ได้รับการดูแลรักษาที่ดีที่สุดเท่าที่จะหาได้

ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า จะมีข้อมูลที่มีประสิทธิผลยิ่งขึ้นสำหรับคนไข้และบุคลากรทางการแพทย์ทั้งในแง่มาตรการป้องกันและการรักษาไวรัสโคโรน่า  เราจะยังคงค้นหาแนวทางจากองค์การอนามัยโลกถึงวิธีจัดการกับโรคระบาดและสิ่งอำนวยความสะดวกในการดูแลรักษาสุขภาพเพื่อให้บรรลุถึงระดับการดูแลตามมาตรฐานไอเอสโอ ซึ่งคนไข้จะสามารถเลือกสูนย์ทางการแพทย์ที่เหมาะสมกับตนเองได้อย่างมั่นใจด้วยการมองหาผู้เชี่ยวชาญและคุณสมบัติของแพทย์ ค่าใช้จ่ายในการบำบัดรักษา และข้อคิดเห็นและการจัดอันดับของคนไข้

ที่น่าสนใจก็คือ แม้ว่าเรื่องเงินจะยังเป็นปัจจัยสำคัญ แต่คณะกรรมการวิชาการไอเอสโอ พบว่าค่าใช้จ่ายกำลังลดความสำคัญลงไปสำหรับคนไข้หลายคน แต่ความมีประสิทธิภาพและความปลอดภัยกลับเป็นสิ่งที่พวกเขาให้ความสนใจมากกว่า

ส่วนความหวังที่มีต่อมาตรฐาน ISO 22525 ในอนาคตของดร.โมนิก้า คือ ทุกวันนี้ มาตรฐานการท่องเที่ยวได้เข้ามาเกี่ยวข้องในการเป็นเครื่องมือที่แท้จริงที่จะช่วยให้องค์กรมีตำแหน่งทางการตลาดที่ดีขึ้นรวมถึงการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ด้วย ดังนั้น ความปรารถนาอย่างแรกก็คือ เมื่อพัฒนามาตรฐาน ISO 22525 เสร็จสมบูรณ์ ก็อยากจะให้มีการแบ่งปันข้อมูลกันอย่างกว้างขวางและมีการสื่อสารไปยังรัฐบาลที่เกี่ยวข้องและภาคส่วนที่ดูแลด้านสุขภาพทั่วโลก โดยส่วนตัวแล้ว ดร.โมนิก้าหวังว่ามาตรฐานนี้จะเป็นตัวเปรียบเทียบในลำดับแรกสำหรับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ ซึ่งมีการรับเอาไปใช้ตามสถาบันที่ดูแลสุขภาพรวมทั้งสถานที่ดูแลอำนวยความสะดวกด้านสุขภาพทั้งภาครัฐและเอกชน

ดร.โมนิก้ากล่าวว่า คณะกรรมการวิชาการไอเอสโอต้องการให้คนไข้ได้รับการรักษาที่ดีที่สุดและได้ผลลัพธ์ออกมาดีเท่าที่จะเป็นไปได้ ไม่ว่าจะเลือกเดินทางไปที่ไหนก็ตาม

คณะกรรมการวิชาการไอเอสโอเชื่อว่ามีทางเลือกหลายทางที่มีอยู่สำหรับคนไข้ในการดูแลรักษาด้านสุขภาพและการดูแลทางการแพทย์  ซึ่งแพทย์พิเศษที่มีอยู่เป็นจำนวนมากและการรักษาที่ทันสมัยรวมทั้งนวัตกรรมทางการแพทย์ในโลกนี้  จะเป็นทางเลือกให้ผู้คนทั่วโลกได้รับการดูแลทางการแพทย์ที่ดีที่สุดไม่ว่าจะอยู่ในประเทศใดก็ตาม

ที่มา: https://www.iso.org/news/isofocus_141-3.html

Related posts

• การควบคุมมาตรฐานสินค้าและการให้บริการในสหภาพยุโรป
• สร้างความเชื่อมั่นในองค์กรด้วย “ธรรมาภิบาล”
• แนะนำมาตรฐานใหม่ ใช้ทดสอบอาหารทารก
• ศัพท์น่ารู้เพื่อบริหารจัดการน้ำให้ได้ผลในองค์กร
• มาตรฐานสากล 9 ฉบับที่ส่งเสริม SRF

Tags: ISO, Leisure, Medical Tourism, Risk, Standardization, Wellness