บทความ เรื่อง มาตรฐาน ISO 10303 เพื่อโลกอนาคต ตอนที่ 1 ได้เล่าถึงประสบการณ์ของเชลล์ เบงซง รองประธานบริษัท Jotne IT ซึ่งได้มีโอกาสเข้าไปทำงานกับวอลโว่ในเรื่องของการออกแบบด้วยคอมพิวเตอร์ (Computer Aided Design: CAD) และต่อมาได้มีโอกาสเดินทางไปทำงานเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนข้อมูลวิศวกรรมกับบริษัท Jotne ที่ประเทศนอรเวย์ ทำให้ในเวลาต่อมา ได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมการวิจัยและพัฒนาในกระทรวงกลาโหม ในมาตรฐานอุตสาหกรรมของไอเอสโอด้วย สำหรับบริษัท Jotne IT ได้รับเอามาตรฐานไอเอสโอไปใช้งานสำหรับการแลกเปลี่ยนและการเป็นตัวแทนข้อมูลผลิตภัณฑ์ (ซึ่งก็คือ ISO 10303และเป็นที่รู้จักกันในชื่อ STEP) รวมทั้งมาตรฐาน BIM แบบเปิด (Building Information Modelling: BIM)
สำหรับบทความในตอนที่ 2 จะได้กล่าวถึงรายละเอียดว่าบริษัทได้เข้าไปสนับสนุนองค์กรขนาดใหญ่ที่ใดบ้างและมีความเกี่ยวข้องกับข้อมูลและนวัตกรรมอย่างไรบ้างดังต่อไปนี้
ไม่ว่าจะเป็นบริษัทข้ามชาติ องค์กรอิสระ หรือหน่วยงานของรัฐบาล การทำงานในภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับนวัตกรรม ต้องขึ้นอยู่กับพื้นฐานในเรื่องของมาตรฐาน เนื่องจากมาตรฐานจะช่วยกำหนดระดับการมีบทบาทในการสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ ซึ่งทำให้มีส่วนร่วมกันอย่างกว้างขวาง ความร่วมมือทำให้เกิดกระบวนการความร่วมมือมากกว่าใช้แนวคิดหรือกระบวนการของบริษัทเพียงแห่งเดียว เขาชี้ให้เห็นว่า Jotne IT ได้ยื่นข้อเสนอการบริหารจัดการวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์และเครื่องมือผู้ใช้งานขั้นสุดท้ายของ BIM รวมทั้งแพลตฟอร์มพื้นฐานบนคลาวด์ที่มีการสับเปลี่ยนทดแทนกันได้ ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อให้ใช้งานในอุตสาหกรรมได้อย่างหลากหลายกว้างขวาง
แนะนำ STEP
ISO 10303 (STEP, STandard for the Exchange of Product Model Data) เป็นมาตรฐานสำหรับการแลกเปลี่ยนข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ด้านวงจรผลิตภัณฑ์ที่ทำให้ข้อมูลระหว่างระบบคอมพิวเตอร์ที่แตกต่างกันสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลกันเองได้โดยมนุษย์ไม่ต้องเข้าไปแทรกแซง
สำหรับ Jotne ความร่วมมือเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โครงการที่ต้องพึ่งพาการมีส่วนร่วมของบุคคลและองค์กรที่มีความเชี่ยวชาญอย่าง European Space Agency: ESA ซึ่งดำเนินโครงการหลายอย่าง เช่น European Space Research and Technology Centre มีฐานปฏิบัติการที่ Noordwijk ฮอลแลนด์ และมีค่าใช้จ่ายมหาศาลในการทดลอง รวมทั้งได้รับค่าใช้จ่ายมหาศาลที่เกี่ยวข้องกับเรื่องอวกาศ และเห็นได้ชัดว่างานทั้งหมดประสบความสำเร็จเนื่องจากได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างมากก่อนที่จะเปิดตัวโครงการ พวกเขาได้ปฏิบัติการในห้องทดสอบที่มีการสร้างขึ้นมาโดยเฉพาะซึ่งมีทุกสิ่งทุกอย่างตั้งแต่ความสามารถของยานอวกาศในการจัดการกับอุณหภูมิสุดขั้วเพื่อทดสอบและทำโมเดลให้มีการผสมผสานเชิงโครงสร้างรองรับการใช้งานจริงได้
เชลล์ชี้ว่ามีการเปลี่ยนแปลงในหลายเรื่องดังนี้คือ กระบวนการ การสร้างข้อมูลปริมาณมหาล การแบ่งปัน การปรับเปลี่ยน และการวิเคราะห์ พร้อมด้วยทีมที่โฟกัสไปในเรื่องที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะ ข้อมูลเหล่านี้มาจากแหล่งหลายแหล่งและบ่อยครั้งมีการใช้รูปแบบไฟล์ที่แตกต่างกัน ดังนั้น ในขณะที่แนวทางนี้สร้างการใช้ทรัพยากรที่ดีที่สุด จึงต้องมีการบริหารจัดการอย่างระมัดระวัง และก้าวไปสู่การบรรลุเป้าหมายอย่างทันทีด้วย ข้อมูลที่สร้างขึ้นมาก็สามารถมีบทบาทสำคัญในส่วนของการควบคุมภารกิจและมีศักยภาพในการมีส่วนร่วมในโครงการในอนาคต ความสำคัญของการทำเอกสารอย่างรอบคอบและกระบวนการการจัดเก็บอย่างต่อเนื่อง เป็นหัวใจสำคัญในเรื่องนี้
โครงการ DEFINE ซึ่งเน้นที่โมเดลดิจิทัลสามมิติที่มีความเกี่ยวข้องกับหลายสาขาวิชาชีพสำหรับสภาพแวดล้อมด้าน AIT (assembly, integration, testing) เป็นหนึ่งในความร่วมมือที่ใหญ่ที่สุดของ Jotne และ ESA
เชลล์กล่าวว่าความเป็นหุ้นส่วนของพวกเขาจะนำมาซึ่งผลประโยชน์ไปสู่ทุกส่วนของการค้นพบของ ESA จากการออกแบบและการก่อสร้างยานอวกาศไปจนถึงการผสมผสานและกระบวนการทดสอบ
สำหรับหัวใจของงานของเขาก็คือ รูปแบบที่มีการกำหนดไว้เป็นมาตรฐานใน ISO 10303 ตามที่กล่าวไว้นั่นเอง
Jotne ทำสิ่งที่เรียกว่า AP 209: Application protocol: Multidisciplinary analysis and design เพื่อปรับใช้กับโมเดลดิจิทัลและข้อมูลจำลองสถานการณ์สำหรับการพัฒนายานอวกาศ
วงจรชีวิตของผลิตภัณฑ์จากการเริ่มต้นใช้งาน (และไปไกลกว่านั้นจนถึงการใช้แทนที่และการรีไซเคิล) มีการแตกออกไปเป็นระยะต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกในเรื่องของการสร้างกรอบแนวคิดและการบริหารจัดการ โปรโตคอลที่นำไปใช้งานอธิบายถึงคู่มือขั้นตอนการดำเนินงานที่มีการปฎิบัติในแต่ละระยะด้วย
การใช้มาตรฐานไอเอสโอ โปรโตคอลที่มีการนำไปใช้อย่าง AP 242/209 ได้นำเรื่องของการสอบกลับข้อมูลและความรับผิดชอบเข้าไปไว้เป็นหัวใจของแนวทาง เชลล์ได้เน้นถึงความได้เปรียบอย่างแรก คือข้อมูลที่สามารถเข้าถึงและแบ่งปันกันได้อย่างน่าเชื่อถือซึ่งเป็นบันทึกที่ชัดเจนของสิ่งที่ได้ทำไปแล้ว และใครเป็นคนทำ และความสามารถในการประยุกต์ใช้ข้อมูลกับโครงการอื่นๆ
นอกเหนือจากนี้ ยังมีข้อกำหนดกฎระเบียบที่บังคับใช้เพื่อรักษาข้อมูลที่มีการทดสอบแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในภาคส่วนที่มีการควบคุมอย่างสูงอย่างการบินพลเรือนหรือการปล่อยยานอวกาศ
การเตรียมการแพลตฟอร์มที่เข้มแข็งซึ่งบริษัทอย่าง Jotne และองค์กรอย่าง ESA สามารถทำงานร่วมกันได้ก็เพราะมาตรฐานซึ่งทำให้ทุกฝ่ายสามารถสร้างนวัตกรรมและก้าวไปข้างหน้าได้
ที่มา: https://www.iso.org/news/isofocus_142-2.html
Related posts
Tags: Aerospace, Innovation, ISO, ISO 10303, Product Model Data, Standardization
Recent Comments