มาตรฐานใหม่ส่งเสริมแนวคิดผู้ป่วยเป็นศูนย์กลางของการรักษา ตอนที่ 1 ได้กล่าวถึงความสำคัญของแนวคิดที่เน้นผู้ป่วยเป็นศูนย์กลางของการรักษาที่มีมากขึ้นและแนวคิดนี้ปรากฏอยู่ในมาตรฐาน ISO 22956, Healthcare Organization Management – Requirements for patient-centered staffing
ISO 22956 เป็นมาตรฐานที่ช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับผู้ใช้งาน และยังกำหนดกลยุทธ์การจัดการและมาตรการที่ใช้ด้วยบริการด้านการดูแลสุขภาพเพื่อดึงดูดและรักษาพนักงานที่ดีที่สุดเอาไว้ด้วย ซึ่งจะกล่าวถึงในตอนที่ 2 ดังต่อไปนี้
ดร.เวโรนิกา มัสควิส เอ็ดเวิร์ดส์ เป็นซีอีโอของอินเจเนสิส บริษัทจัดหาบุคลากรการดูแลสุขภาพซึ่งพัฒนามาตรฐานภายใต้การรับรองระบบงานของ ANSI ซึ่งเป็นสมาชิกของไอเอสโอในนามของสถาบันมาตรฐานแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา และในฐานะผู้ประสานงานของคณะทำงานไอเอสโอที่พัฒนามาตรฐานดังกล่าว (ISO / TC 304 / WG 2) ได้อธิบายว่ากลุ่มงานของพวกเขาได้เริ่มต้นด้วยคำถามสำคัญคำถามหนึ่งซึ่งก็คือ เราจะยกระดับและสร้างสภาพแวดล้อมที่มีผู้ป่วยเป็นศูนย์กลางได้อย่างไรโดยไม่คำนึงถึงสถานที่ตั้ง เราทุกคนรู้ดีว่าเราต้องการการกำกับดูแลและการกำหนดมาตรฐานที่มีความสม่ำเสมอ รวมถึงการรับพนักงานที่มีปลอดภัยในทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นพยาบาล แพทย์ ศัลยแพทย์ นักสังคมสงเคราะห์ นักบำบัด ช่างเทคนิค หรือบุคลากรด้านเภสัชกรรม และเรายังรู้ด้วยว่าบุคลากรทางการแพทย์มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการพัฒนาอย่างยั่งยืนและสามารถสนับสนุนความต่อเนื่องของการดูแลรักษาได้
แนวทางที่เน้นผู้ป่วยเป็นศูนย์กลางจะช่วยบรรเทาผลกระทบด้านลบ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อการขาดแคลนพนักงานได้ส่งผลกระทบต่อการดูแลรักษา อย่างไรก็ดี มาตรฐาน ISO 22956 จะเป็นแนวทางสำหรับผู้จัดการโรงพยาบาล ผู้นำ ผู้มีอำนาจตัดสินใจ ผู้จัดการด้านความเสี่ยงและผู้กำหนดนโยบายในการรักษาบุคลากรคุณภาพให้เพียงพอและปลูกฝังวัฒนธรรมที่เน้นผู้ป่วยเป็นศูนย์กลาง ด้วยเหตุนี้ มาตรฐาน ISO 22956 จึงให้ความสำคัญกับการจัดหาพนักงานทุกด้าน เช่น การวางแผนกำลังคน การประเมินวิธีการจัดหาพนักงาน การจัดสรรและการจัดการทรัพยากร ตลอดจนความคาดหวังและความพึงพอใจของผู้ป่วยตามข้อมูลที่รวบรวม นอกจากนี้ ยังเสนอแนวทางในการปฏิบัติตามข้อบังคับตามกฎหมายและการวางแผนสำหรับสถานการณ์ฉุกเฉินด้วย
การนำมาตรฐานดังกล่าวไปใช้จะช่วยให้ผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพสามารถปรับปรุงประสิทธิภาพโดยรวมได้ การดูแลสุขภาพที่เน้นผู้ป่วยเป็นศูนย์กลางในระยะยาวจะคุ้มค่ามากขึ้นเนื่องจากลดความซ้ำซ้อนของการทำงานต่างๆ ลง มีการจัดลำดับความสำคัญอย่างโปร่งใสโดยคำนึงถึงความคุ้มทุนและคุณค่าของบริการ แน่นอนว่าผู้ที่จะได้รับประโยชน์จากมาตรฐานมีตั้งแต่ตัวผู้ป่วยเองไปจนถึงหน่วยงานของรัฐ ชุมชนท้องถิ่น ผู้เสียภาษีและกลุ่มผู้ให้ทุน ผู้แทนในภาคอุตสาหกรรมและองค์กรที่ก่อตั้งขึ้นตามกฎหมาย
ดร.เซอุน รอสส์ หัวหน้าเจ้าหน้าที่การพยาบาลซึ่งจบการศึกษาปริญญาเอกด้านภาวะผู้นำทางการพยาบาลและเป็นสมาชิกของ WG 2 ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการให้แนวทางเกี่ยวกับเอกสารและกระบวนการวัดผลที่สม่ำเสมอว่าการพัฒนาและการดำเนินการตามมาตรฐานแนวทางและขั้นตอนต่างๆ จะช่วยสนับสนุนการปฏิบัติขององค์กรและผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพในขณะที่ให้การดูแลผู้ป่วย
เพื่อให้แน่ใจว่ามาตรฐาน ISO 22956 จะได้รับการเข้าถึงในวงกว้าง ผู้พัฒนามาตรฐานจึงได้รวบรวมหลักการของการดูแลสุขภาพที่เน้นผู้ป่วยเป็นศูนย์กลางที่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมดสามารถปฏิบัติตามได้ รวมถึงการตรวจสอบย้อนกลับของกระบวนการดูแลผู้ป่วยการวินิจฉัยและการบำบัดเพื่อให้สามารถปฏิบัติตามเส้นทางการดูแลผู้ป่วยได้อย่างเหมาะสม ขั้นตอนการจัดทำเอกสารก็เป็นวิธีการสำคัญในการดูแลรักษาที่สม่ำเสมอ ปลอดภัยและมีคุณภาพสูง
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ต้องสามารถเข้าถึงนโยบายที่เหมาะสมและนำไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิผล เพิ่มความมั่นใจในคุณภาพของการดูแลรักษา ซึ่งจะช่วยให้มั่นใจได้ว่าผู้ปฏิบัติงานด้านการดูแลสุขภาพเข้าใจถึงความรับผิดชอบที่มีต่อผู้ป่วยและองค์กร มาตรฐานดังกล่าวยังช่วยให้พวกเขามีส่วนร่วมในการประเมินการดูแลและพิจารณาว่าจะเพิ่มประสิทธิภาพได้อย่างไรอีกด้วย
ดร.เอ็ดเวิร์ดส์กล่าวว่าในบรรดาผลกระทบเชิงบวกของมาตรฐานสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ สิ่งที่จะเกิดขึ้นกับองค์กรก็คือ การลดความอ่อนล้าและเบื่อหน่าย การรักษาพนักงานและความพึงพอใจในการทำงานมากขึ้น และมาตรฐานนี้ยังสามารถนำไปใช้ฝึกอบรมบุคลากร ช่วยดึงดูดและรักษาบุคลากรที่ดีเอาไว้ เพื่อให้บริการทางการแพทย์ที่มีความสามารถสูงสุดด้วย นอกจากนี้ การสร้างสถานที่ทำงานที่มีการจัดเตรียมไว้รวมทั้งโครงสร้างพื้นฐานที่เหมาะสม การดูแลความเป็นอยู่ที่ดีทั้งทางร่างกายและจิตใจของพนักงาน การจ่ายเงินเดือนที่เหมาะสมและกำหนดชั่วโมงการทำงานที่เป็นธรรม จะนำไปสู่ความพึงพอใจของผู้ป่วยและผลลัพธ์ทางคลินิกที่ดีขึ้นเช่นกัน
ส่วน ดร.รอสส์ กล่าวว่า โครงการบันไดอาชีพที่ให้รางวัลแก่ผู้ปฏิบัติงานด้านสุขภาพสำหรับการศึกษาทักษะและความสามารถในการเป็นผู้นำของพวกเขายังส่งผลดีต่ออัตราการรักษาพนักงานและผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นกับผู้ป่วยอีกด้วย เธอกล่าวว่า อย่าลืมประเด็นปัญหาที่ทำให้เบี่ยงเบนไปจากสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดีสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ และเพื่อปรับปรุงผลลัพธ์ของผู้ป่วยและตรวจสอบอย่างมีประสิทธิภาพ เจ้าหน้าที่ด้านการดูแลสุขภาพจำเป็นต้องมองเห็นเส้นทางที่แท้จริงสำหรับการพัฒนาวิชาชีพ โอกาสในการฝึกอบรมและความสามารถในการให้และรับข้อเสนอแนะต่อเพื่อนร่วมงานและความเป็นผู้นำด้วย
ISO 22956 เป็นมาตรฐานสำหรับการจัดพนักงานที่เน้นผู้ป่วยเป็นศูนย์กลางสามารถใช้ได้ทุกที่ที่มีการดูแลรักษา ในความเป็นจริง มาตรฐานนี้ได้รับการออกแบบเพื่อให้สามารถใช้ร่วมกับแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดที่มีอยู่แล้วของหน่วยงานด้านการดูแลสุขภาพที่สำคัญในประเทศต่างๆ ทั่วโลก
คณะกรรมการวิชาการ ISO / TC 304 ได้พัฒนามาตรฐานดังกล่าวโดยอยู่บนพื้นฐานของกลยุทธ์การจัดการด้านการดูแลสุขภาพที่มีอยู่แล้ว ปัจจุบัน ปรัชญาที่ได้รับการยอมรับแล้ว คือ การดูแลที่เน้นผู้ป่วยเป็นศูนย์กลางได้รับการยอมรับร่วมกันและเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการให้ผลลัพธ์อันยอดเยี่ยมที่สุดกับผู้ป่วย แนวทางของพนักงานที่ใช้ผู้ป่วยเป็นศูนย์กลางจึงเป็นขั้นตอนต่อไปที่สมเหตุสมผลอย่างยิ่ง
ดร.รอสส์ ให้ความเห็นว่าคณะกรรมการวิชาการ ISO/TC 304 ได้ทำคุณประโยชน์อย่างมหาศาลให้กับวงการดูแลสุขภาพทั่วโลก เนื่องจากมาตรฐานดังกล่าวมีความสำคัญเป็นพิเศษ คณะกรรมการดังกล่าวรู้ว่าบางประเทศขาดโครงสร้างพื้นฐานและต้องการกรอบแนวทางเหล่านั้นในการสนับสนุนแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดและกรอบการทำงานที่สอดคล้องกันเพื่อยกระดับการดูแลสุขภาพทั่วโลก
การมีแนวปฏิบัติในการดูแลรักษาที่เน้นผู้ป่วยเป็นศูนย์กลางที่มีการบูรณาการที่ชัดเจนและรัดกุมอย่างมาตรฐาน ISO 22956 จะช่วยให้ระบบการดูแลรักษามีประสิทธิภาพมากขึ้นและผู้ป่วยมีความพึงพอใจมากขึ้น ตลอดจนลดค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลด้วย
ผู้สนใจงานของคณะกรรมการวิชาการ ISO/TC 304 สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของไอเอสโอ https://www.iso.org/committee/6131376.html
ที่มา: https://www.iso.org/news/ref2650.html
Related posts
Tags: Healthcare, Healthcare Management, Healthcare personnel, ISO 22886, ISO 22956, ISO/TC 304, Patient-centred, Standardization, Standards
Recent Comments