บทความ เรื่อง เจาะลึกมุมมองผู้เชี่ยวชาญการท่องเที่ยวยุค COVID-19 ตอนที่ 1 ได้กล่าวถึงผลกระทบต่อของการระบาดใหญ่ COVID-19 ต่อการเดินทางและการท่องเที่ยว ผ่านมุมมองของนาตาเลีย ออร์ทิซ เดอ ซาราเท ผู้จัดการคณะกรรมการวิชาการไอเอสโอด้านการท่องเที่ยว (ISO/TC 228) ซึ่งพบว่า ปัจจุบัน อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวพยายามที่จะฟื้นตัวขึ้นมาภายใต้บริบทใหม่ของสังคมที่ยังคงดำเนินต่อไปท่ามกลางภาวะการระบาดใหญ่ ภายใต้ภาวการณ์ที่นักท่องเที่ยวและผู้เดินทางต่างต้องการความมั่นใจในสภาพการเดินทางที่ดีและมีความปลอดภัย ดังนั้น ไอเอสโอจึงได้พัฒนาเอกสารที่มีชื่อว่า ISO/PAS 5643, Tourism and related services – Requirements and guidelines to reduce the spread of COVID-19 in the tourism industry ขึ้นมาเพื่อช่วยฟื้นฟูความมั่นใจและทำให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวให้มีความยั่งยืนและยืดหยุ่นมากขึ้น สำหรับบทความตอนที่ 2 จะกล่าวถึงแนวทางที่จะพลิกฟื้นอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวให้กลับคืนมาดังต่อไปนี้
นาตาเลียกล่าวว่าการดำเนินมาตรการเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของ COVID-19 เป็นกุญแจสำคัญของการเปิดให้บริการด้านการท่องเที่ยวอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม การสื่อสารมาตรการเหล่านั้นและแจ้งให้นักท่องเที่ยวทราบเกี่ยวกับสถานการณ์ก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพมีบทบาทสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยว
ในขณะที่หลายคนโหยหาวันหยุดแต่ก็ยังมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยและความเสี่ยงในการติดเชื้อไวรัส และยังรู้สึกสับสนอยู่ว่าจะสามารถเดินทางได้หรือไม่ กฎระเบียบเกี่ยวกับการยกเลิกบริการต่าง ๆ เป็นอย่างไรหากธุรกิจเปิดทำการ และบริการใดบ้างที่สามารถใช้ได้เมื่อไปถึงจุดหมายปลายทาง คำถามเหล่านี้เป็นคำถามสำคัญที่ภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวต้องตอบนักท่องเที่ยวให้ได้
มีตัวอย่างของการตอบสนองต่อนักท่องเที่ยวและผู้เดินทาง เช่น บางประเทศจัดเตรียมป้ายบอกทางและตราสัญลักษณ์เพื่อให้ผู้เดินทางได้รับความสะดวกยิ่งขึ้น เช่น ยุโรปได้วางตราสัญลักษณ์ความปลอดภัยสำหรับการท่องเที่ยวแห่งยุโรป (European Tourism COVID-19 Safety Seal) ซึ่งเป็นไปตามการปฏิบัติตาม ISO/PAS 5643 โดยมีจุดประสงค์เพื่อปรับปรุงขั้นตอนด้านความปลอดภัยในธุรกิจการท่องเที่ยวในช่วงฤดูร้อน ตราประทับนี้มาพร้อมกับมาตรการอื่นๆ เช่น EU Digital COVID-19 Certificate ซึ่งจะอำนวยความสะดวกในการเคลื่อนย้ายพลเมืองอย่างเสรีอย่างปลอดภัยในสหภาพยุโรปตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2564 เป็นต้นมา
หลายประเทศมีแนวทางหรือกฎหมายระดับชาติที่ออกแบบมาเพื่อลดการแพร่กระจายของไวรัส (ตัวอย่างเช่น ประเทศไทยมีมาตรฐาน SHA และ IPHA เป็นต้น) แต่สำหรับแนวทางระหว่างประเทศสามารถทำอะไรได้บ้าง คำตอบคือ การท่องเที่ยวมักเป็นกิจกรรมระหว่างประเทศ การใช้รูปแบบเดียวกันร่วมกันจะช่วยสร้างความไว้วางใจในหมู่นักเดินทางอีกครั้ง ซึ่งหากมาตรการด้านสุขภาพของแต่ละประเทศไม่เหมือนกันก็อาจมีคำถามว่าจะต่อสู้กับการระบาดใหญ่แบบเดียวกันอย่างไร
ในขณะเดียวกัน ความเป็นไปของโรคระบาดใหญ่ก็มีวิวัฒนาการมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดความสับสน ในตอนแรก มีหลายสิ่งที่เราไม่รู้ เช่น คนที่มีผลบวกต่อ COVID-19 แต่ไม่มีอาการใดๆ สามารถแพร่เชื้อไวรัสและระยะฟักตัวได้หรือไม่ช่วงต้นปีที่แล้ว เรายังรู้เพียงเล็กน้อยเกี่ยวกับการแพร่กระจายในน้ำ (เช่น ที่ชายหาดหรือในสระว่ายน้ำ) ในขณะที่ตอนนี้เราทราบแล้วว่าพื้นที่จำกัดและการระบายอากาศที่ไม่ดีสามารถเพิ่มความเสี่ยงได้ แม้ว่า ISO/PAS 5643 จะได้รับการพัฒนาตามระเบียบปฏิบัติระดับชาติก่อนหน้านี้ แต่ก็ได้ใช้ประโยชน์จากการเรียนรู้ทางวิทยาศาสตร์ใหม่ๆ การปรับมาตรการที่เสนอให้เข้ากับความรู้ใหม่ และสอดคล้องกับแนวทางขององค์การอนามัยโลกด้วย
อาจมีคนโต้แย้งว่าหากมีการท่องเที่ยวน้อยลงจะดีต่อโลก แล้วเราควรจะสนับสนุนให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวกลับไปเป็นเหมือนเดิมหรือไม่ เราไม่อาจปฏิเสธได้ว่าการท่องเที่ยวส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อสิ่งแวดล้อม ทำให้ทรัพยากรธรรมชาติในท้องถิ่นหมดไป ตลอดจนปัญหามลพิษและของเสีย แต่การท่องเที่ยวก็ยังคงเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญสำหรับการพัฒนาและการเติบโตในหลายประเทศ สามารถสร้างรายได้ การจ้างงาน การลงทุน และการส่งออก นอกจากนี้ ยังสามารถให้ทุนสนับสนุนพื้นที่ที่สำคัญ เช่น การอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมและธรรมชาติ การปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน และสิ่งอำนวยความสะดวกในชุมชนท้องถิ่น เป็นต้น ซึ่งผลกระทบจะเกิดขึ้นในเชิงบวกหรือเชิงลบขึ้นก็อยู่กับการวางแผนและการจัดการกิจกรรม
เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว องค์กรการท่องเที่ยวโลกแห่งสหประชาชาติ (UNWTO) ได้เรียกร้องให้มีการฟื้นตัวอย่างยั่งยืนของภาคการท่องเที่ยวเพื่อสร้างสมดุลระหว่างความต้องการของผู้คนและโลกเพื่อความผาสุกของทุกคน ซึ่งความตื่นตัวจากการระบาดใหญ่ครั้งนี้ยังส่งเสริมให้เกิดความตระหนักและความรับผิดชอบต่อสังคมโลกมากขึ้นด้วย ซึ่งผู้เชี่ยวชาญได้คาดการณ์ถึงความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับกิจกรรมการท่องเที่ยวกลางแจ้งและท่ามกลางธรรมชาติเช่นกัน
จากมุมมองด้านสิ่งแวดล้อม เป็นความจริงที่โลกได้รับประโยชน์จากการหยุดชะงักชั่วคราวในภาคการท่องเที่ยวตลอดจนกิจกรรมทางอุตสาหกรรมที่ลดลง แต่ในทางกลับกัน มาตรการด้านสุขภาพและความปลอดภัยบางอย่างจำเป็นต้องใช้บรรจุภัณฑ์ส่วนบุคคลมากขึ้น ใช้พลังงานมากขึ้น และสร้างของเสียมากขึ้น ซึ่งทั้งข้อเสนอและความต้องการด้านการท่องเที่ยวมีความมุ่งมั่นต่อความยั่งยืนมากกว่าที่เคยเป็นมาในอดีต วิกฤตครั้งนี้ได้กลายเป็นโอกาสทองในการเพิ่มการมีส่วนร่วมของการท่องเที่ยวในเป้าหมายเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน 17 ประการของขององค์การสหประชาชาติ
มาตรฐานด้านการท่องเที่ยวยังได้สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการของภาคการท่องเที่ยว ขณะนี้เรามีมาตรฐานสากลสำหรับที่พักผ่อนที่ยั่งยืน การดำน้ำอย่างยั่งยืน การเดินทางผจญภัยที่ยั่งยืน เป็นต้น เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในการเคลื่อนไหวนี้ และยังเป็นโอกาสในการส่งเสริมความร่วมมือและการประสานงานทั่วโลกเพื่อเผชิญหน้ากับโรคระบาดใหญ่และความล้มเหลวทางเศรษฐกิจด้วย
ในขณะที่ธุรกิจการท่องเที่ยวจำนวนมากประสบกับความเดือดร้อน แต่ก็มีตัวอย่างมากมายที่แสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นที่ไม่ธรรมดาของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ตัวอย่างเช่น มีโรงแรมที่ได้รับการดัดแปลงเป็นคลินิกหรือสถานพยาบาลชั่วคราวเพื่อลดแรงกดดันต่อโรงพยาบาล และเพิ่มความจุของเตียงที่มีให้บริการสำหรับผู้ป่วยโรคโควิด-19 ด้วย
ร้านอาหารหลายแห่งได้เรียนรู้ที่จะปรับเปลี่ยนทั้งสิ่งอำนวยความสะดวก (การติดตั้งระเบียงกลางแจ้ง การปรับปรุงการระบายอากาศ และการติดตั้งแผงแยก) และวิธีการทำงานของร้านอาหาร เช่น การแปลงเมนูให้เป็นดิจิทัลหรือการเปิดตัวบริการจัดส่งใหม่ ซึ่งในเรื่องนี้ นวัตกรรมถือเป็นกุญแจสำคัญ ตัวอย่างเช่น หมู่เกาะคะเนรีที่พึ่งพาการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ซึ่งคิดเป็น 35% ของ GDP และการจ้างงาน ในช่วงการแพร่ระบาด มีการปรับกลยุทธ์ใหม่เพื่อดึงดูดคนทำงานทางไกลด้วยสโลแกน “สำนักงานที่มีสภาพอากาศดีที่สุดในโลก” การดึงดูดคนทำงานด้วยระบบทางไกลจะช่วยเสริมสร้างโครงสร้างของรูปแบบการท่องเที่ยว และจะเป็นโอกาสในการฟื้นฟูแบรนด์ของจุดหมายปลายทางของการท่องเที่ยวนอกเหนือจากการดึงดูดผู้เชี่ยวชาญที่มีคุณสมบัติสูง
เทคโนโลยีต่างๆ เช่น โดรน เซ็นเซอร์ที่มีความสามารถในการนับตามเวลาจริง หรือแอพมือถือยังช่วยจัดการกระแสน้ำได้ดียิ่งขึ้น สามารถหลีกเลี่ยงฝูงชนบนชายหาด ซึ่งทำให้ใช้งานได้ดีในสภาพที่ปลอดภัย เรากำลังเข้าสู่ยุคใหม่ของการท่องเที่ยวอย่างแท้จริง ซึ่งเป็นยุคที่มีนวัตกรรม คล่องตัว และสอดคล้องกับสิ่งที่นักเดินทางและสิ่งแวดล้อมต้องการมากขึ้น เพื่อสร้างประสบการณ์ที่มีคุณค่าและสมบูรณ์ยิ่งขึ้น
ที่มา: https://www.iso.org/news/ref2694.html
Related posts
Tags: COVID-19, ISO/PAS 5643, Pandemic, safety, Standardization, Standards, Tourism Industry, Travelling
Recent Comments