บทความ MASCIInnoversity  เรื่อง วัฒนธรรมองค์กรที่สำคัญที่สุดสำหรับพนักงาน ตอนที่ 1 ได้กล่าวถึงความสำคัญของวัฒนธรรมองค์กรที่มีผลต่อประสิทธิภาพในการทำงานที่จะช่วยให้ผู้นำสามารถส่งเสริมการมีส่วนร่วมของพนักงานในยุคนิวนอร์มอลให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะสำหรับการทำงานระยะไกลและแบบผสมผสาน ซึ่ง Sloan Management Review ได้ทำการศึกษาเกี่ยวกับวัฒนธรรมองค์กรโดยใช้ข้อมูล Glassdoor และพบว่ามีองค์ประกอบของวัฒนธรรม 10 ประการที่มีความสำคัญต่อพนักงานมากที่สุด ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

1. พนักงานรู้สึกเป็นที่เคารพนับถือ ตัวทำนายคะแนนวัฒนธรรมของบริษัทที่ดีที่สุดเพียงตัวเดียวคือการที่พนักงานรู้สึกว่าได้รับความเคารพในที่ทำงานหรือไม่ ความเคารพไม่ได้เป็นเพียงปัจจัยที่สำคัญที่สุดเท่านั้น แต่ยังมีความสำคัญเหนือองค์ประกอบทางวัฒนธรรมอื่น ๆ ด้วย ความเคารพมีความสำคัญราว 18 เท่าของคุณลักษณะทั่วไปในแบบจำลองในการคาดการณ์การจัดอันดับวัฒนธรรมโดยรวมของบริษัท และเกือบ 2 เท่าของปัจจัยที่คาดการณ์ได้มากที่สุดเป็นอันดับสอง

2. ผู้นำที่สนับสนุน ในบรรดาวิธีที่พนักงานอธิบายผู้จัดการของพวกเขา ตัวทำนายที่สำคัญที่สุดของคะแนนวัฒนธรรมของบริษัทคือว่าผู้จัดการสนับสนุนพนักงานหรือไม่ พนักงานอธิบายผู้นำที่สนับสนุนว่าช่วยให้พวกเขาทำงาน และตอบสนองต่อคำร้องขอ ตอบสนองความต้องการส่วนบุคคลของพนักงาน ให้กำลังใจ และให้การสนับสนุน แน่นอนว่าผู้นำมีอิทธิพลในทุกด้านของวัฒนธรรม แต่การเป็นแหล่งสนับสนุนพนักงานนั้นมีความสำคัญอย่างยิ่งและเป็นลักษณะความเป็นผู้นำที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับวัฒนธรรมที่ได้รับการจัดอันดับไว้สูง

3. ผู้นำที่ดำเนินชีวิตตามค่านิยมหลัก  โดยเฉลี่ยแล้วไม่มีความสัมพันธ์กันระหว่างวัฒนธรรมอย่างเป็นทางการของบริษัทกับการปฏิบัติต่อค่านิยมหลัก โดยทั่วไป พนักงานไม่ได้คาดหวังเมื่อผู้นำกล่าวคำปราศรัยหรือช่วยฝึกฝนและสอนงาน และพนักงานไม่ได้คาดหวังให้ผู้นำดำเนินชีวิตตามค่านิยมหลัก แต่พนักงานจะรู้สึกซาบซึ้งเมื่อผู้นำสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างสอดคล้องกับค่านิยมขององค์กรจริงๆ

4. ผู้จัดการที่ทำให้บรรยากาศการทำงานเต็มไปด้วยมลพิษทางใจ   อีกด้านหนึ่งของผู้นำที่สนับสนุนซึ่งดำเนินชีวิตตามค่านิยมหลักคือผู้จัดการที่พนักงานอธิบายว่า “น่ากลัว”  หรือ “เป็นพิษ” ท่ามกลางเงื่อนไขเชิงลบอื่นๆ ซึ่งภาวะผู้นำที่เป็นพิษนั้นมีหลายรูปแบบ แต่พนักงานที่เรียกผู้จัดการว่าเป็นพิษมักจะพูดว่าพวกเขาดูถูก ไม่ใส่ใจลูกน้อง หรือไม่มีจรรยาบรรณ

5. พฤติกรรมที่ผิดจรรยาบรรณ เป็นเรื่องที่อันตรายอย่างยิ่ง ความซื่อสัตย์เป็นรากฐานที่สำคัญของวัฒนธรรมอย่างเป็นทางการขององค์กรส่วนใหญ่  เกือบ 2 ใน 3 ของบริษัททั้งหมดระบุถึงความซื่อตรงหรือจริยธรรมในค่านิยมหลักที่เป็นทางการของพวกเขา นอกจากนี้ ความซื่อสัตย์สุจริตยังมีความสำคัญต่อพนักงานด้วย  ผู้จัดการที่ผิดจรรยาบรรณก็ทำให้ผู้ใต้บังคับบัญชาของพวกเขามีโอกาสที่จะกระทำผิดจรรยาบรรณเช่นกัน

6. ผลประโยชน์ เมื่อพูดถึงการทำนายคะแนนวัฒนธรรมของบริษัท ผลประโยชน์มีความสำคัญเป็นสองเท่าของค่าตอบแทน ผลประโยชน์มีความสำคัญสำหรับพนักงานทุกคน แต่ผลประโยชน์ใดสำคัญที่สุดก็ขึ้นอยู่กับงานของพนักงาน การประกันสุขภาพและผลประโยชน์เป็นตัวทำนายที่ดีกว่าสำหรับการจัดอันดับวัฒนธรรมสำหรับคนงาน ในขณะที่ผลประโยชน์เมื่อเกษียณอายุ เช่น แผน 401(k) และเงินบำนาญมีความสำคัญมากกว่าสำหรับพนักงานออฟฟิศ

7. สิทธิพิเศษ พนักงานพูดถึงสิทธิพิเศษต่างๆ เกือบ 450 ประเภทในรีวิว แต่ในบรรดาสิ่งอำนวยความสะดวกที่พนักงานมากกว่า 50 คนพูดถึงนั้น “กาแฟ” ถือเป็นข้อดีอย่างแท้จริง โดยกาแฟลดราคามีคะแนนบวกมากกว่า 97% ของเวลาทั้งหมด พนักงานไม่จำเป็นต้องคาดหวังสิทธิพิเศษ แต่พวกเขาจะขอบคุณเมื่อได้รับข้อเสนอ หากพนักงานจำนวนเล็กน้อยพูดถึงสิทธิพิเศษ คะแนนวัฒนธรรมของบริษัทจะไม่ได้รับผลกระทบมากนัก ในทางกลับกัน เมื่อมีพนักงานพูดถึงสิทธิพิเศษมากขึ้น บริษัทต่างๆ ก็มองว่าการจัดอันดับวัฒนธรรมของพวกเขาพุ่งสูงขึ้นเป็นอย่างมาก

8. การเรียนรู้และพัฒนา เกือบ 1 ใน 3 ของพนักงานทั้งหมดพูดถึงโอกาสในการศึกษาหรือการพัฒนาตนเอง ทำให้หัวข้อนี้เป็นหัวข้อที่พูดถึงบ่อยเป็นอันดับสาม (ต่อจากการจัดการและค่าตอบแทน) พนักงานใน Culture 500 มีแง่บวกอย่างมากเกี่ยวกับโปรแกรมที่จะจับคู่หรือชดใช้ค่าเล่าเรียนของมหาวิทยาลัยและโอกาสที่จะได้รับต่อไปในการก้าวสู่ผู้บริหารระดับสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเริ่มต้นของอาชีพการงาน การวิเคราะห์ยังแสดงให้เห็นว่าผลประโยชน์จากการเรียนรู้และการพัฒนามีความสำคัญต่อพนักงานออฟฟิศมากกว่าคนงาน

9. ความมั่นคงปลอดภัยในการทำงาน ผู้จัดการมักไม่คิดว่าความมั่นคงในงานเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมองค์กร  ในการศึกษาก่อนหน้านี้พบว่าบริษัทต่างๆ พยายามอธิบายค่านิยมหลักซึ่งไม่ใช่ความปลอดภัยในงานที่ระบุไว้ อย่างไรก็ตาม ความไม่มั่นคงในการทำงานสามารถส่งผลกระทบต่อจิตใจของพนักงานอย่างมากเมื่อประเมินวัฒนธรรมองค์กร ยิ่งมีเปอร์เซ็นต์ของพนักงานที่พูดถึงการเลิกจ้าง การจ้างภายนอก หรือความเป็นไปได้ที่จะถูกไล่ออกมากเท่าไร บริษัทก็จะยิ่งได้รับการจัดอันดับด้านวัฒนธรรมต่ำลงเท่านั้น

10. การปรับโครงสร้างองค์กร ในตัวอย่าง Culture 500 พนักงานพูดคุยเกี่ยวกับการปรับโครงสร้างองค์กรในแง่ลบ 97% ของเวลาทั้งหมด ยิ่งมีคนพูดถึงการปรับโครงสร้างองค์กรน้อยลง คะแนนวัฒนธรรมของบริษัทก็จะยิ่งสูงขึ้น แม้ว่าคุณอาจเชื่อมโยงการกล่าวถึงการปรับโครงสร้างองค์กรกับการเลิกจ้างและความไม่มั่นคงของงาน  ข้อมูลได้แสดงให้เห็นว่าข้อกังวลของพนักงานในประเด็นนี้พูดถึงประเด็นเชิงกลยุทธ์ในวงกว้างสำหรับบริษัทต่างๆ เมื่อพนักงานพูดถึงการปรับโครงสร้างองค์กร พวกเขามักจะพูดถึงการเปลี่ยนแปลงขององค์กรว่าเร็วเกินไป ความไม่สม่ำเสมอในกลยุทธ์เมื่อเวลาผ่านไป และการขาดความชัดเจนเกี่ยวกับกลยุทธ์การพัฒนาของบริษัท

บรรดาผู้นำต้องเผชิญกับความท้าทายมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในเวลาที่กำลังนำพนักงานกลับมาทำงานหลัง COVID-19  ผู้นำต้องรักษาพนักงานที่มีความรู้ความสามารถสูงเอาไว้ ต้องดึงดูดพนักงานใหม่เข้ามา และรักษาวัฒนธรรมที่ดีต่อองค์กรในขณะที่พนักงานก็ต้องปรับตัวเข้ากับยุคนิวนอร์มอลซึ่งจะรวมเอาการทำงานแบบทางไกลและแบบผสมผสานหรือไฮบริดเข้าด้วยกันมากขึ้น     การทำความเข้าใจองค์ประกอบของวัฒนธรรมที่สำคัญที่สุดต่อพนักงานสามารถช่วยให้ผู้นำรักษาความผูกพันของพนักงานและวัฒนธรรมที่โดดเด่นเอาไว้ได้ในขณะที่ทุกคนกำลังก้าวไปสู่ยุคนิวนอร์มอล

ที่มา: 1. https://bit.ly/3vMrhfM
2. https://th.hrnote.asia/orgdevelopment/what-is-organizational-culture-210604/

Related posts

• อุปนิสัย 7 ประการ ทำให้มนุษย์มีการเปลี่ยนแปลงอย่างประสิทธิภาพ
• ISO 22301 ช่วยให้ดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง
• “สุดยอดเจ้านาย” ที่หุ่นยนต์ไม่อาจแทนที่ได้ ตอนที่ 2
• วันสากลอากาศสะอาดเพื่อท้องฟ้าสดใส 2564
• แนวทางสร้างความยืดหยุ่นให้องค์กรเมื่อเศรษฐกิจผันผวน ตอนที่ 1

Tags: Core Values, COVID-19, Culture 500, Glassdoor, Human Resources, MIT, Reorganization, Strategic Management