ไอเอสโอหรือองค์การระหว่างประเทศว่าด้วยการมาตรฐาน เป็นองค์กรที่ได้รับการก่อตั้งขึ้นมาเพื่อพัฒนามาตรฐานที่ทำให้ผู้คนมีความมั่นใจในคุณภาพ ความปลอดภัย และประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ บริการ หรือระบบต่าง ๆ แต่หากถามว่ามาตรฐานสากลคืออะไร อาจอธิบายให้เข้าใจได้ง่าย ๆ ว่าเป็นสูตรที่อธิบายวิธีที่ดีที่สุดในการทำบางสิ่งบางอย่าง อาจเป็นเรื่องเกี่ยวกับการทำผลิตภัณฑ์ การจัดการกระบวนการ การส่งมอบบริการ หรือการจัดหาวัสดุ เพราะมาตรฐานนั้นครอบคลุมกิจกรรมต่างๆ มากมาย
มาตรฐานสากลเป็นภูมิปัญญาที่กลั่นกรองจากบุคคลที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องนั้น ๆ และจากผู้ที่ทราบความต้องการขององค์กรที่กลุ่มผู้เชี่ยวชาญเป็นตัวแทนจากทั่วโลก เช่น ผู้ผลิต ผู้ขาย ผู้ซื้อ ลูกค้า สมาคม ผู้ใช้งาน หรือหน่วยกำกับดูแล
เป็นต้น ซึ่งมีตัวอย่างมาตรฐานสากลที่ทั่วโลกให้ความสนใจและนำไปใช้อย่างแพร่หลาย เช่น
• มาตรฐานการจัดการคุณภาพ เพื่อช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพและลดความผิดพลาดของผลิตภัณฑ์
• มาตรฐานการจัดการสิ่งแวดล้อม เพื่อช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ลดของเสีย และยั่งยืนยิ่งขึ้น
• มาตรฐานด้านสุขภาพและความปลอดภัย เพื่อช่วยลดอุบัติเหตุในการทำงาน
• มาตรฐานการจัดการพลังงาน เพื่อช่วยลดการใช้พลังงาน
• มาตรฐานความปลอดภัยของอาหาร เพื่อช่วยป้องกันให้อาหารปราศจากการปนเปื้อน และมีความปลอดภัย
• มาตรฐานความปลอดภัยด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อช่วยรักษาข้อมูลที่ความละเอียดอ่อนให้มีความมั่นคงปลอดภัย
นอกจากมาตรฐานสากลจะเป็นประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมทั่วไปแล้ว ยังเป็นประโยชน์ต่อวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมหรือเอสเอ็มอีเช่นกัน ซึ่งเจนส์ อัลเบอร์ส ซีอีโอของนาโทรอนเทคโนโลยีส์ ได้กล่าวยืนยันว่ามาตรฐานสากลช่วยให้มีการเข้าถึงตลาดได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะเอสเอ็มอีเนื่องจากสามารถปรับปรุงการจดจำแบรนด์ และสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าว่าเทคโนโลยีได้รับการทดสอบมาแล้วและเชื่อถือได้
สำหรับมาตรฐานสากลช่วยให้ธุรกิจทุกขนาดและทุกภาคส่วนสามารถลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต และเข้าถึงตลาดใหม่ได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะเอ็สเอ็มอี มาตรฐานสากลจะเป็นประโยชน์ดังต่อไปนี้
• สร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าว่าผลิตภัณฑ์หรือบริการมีความปลอดภัยและเชื่อถือได้
• เป็นไปตามข้อกำหนดด้านกฎระเบียบด้วยต้นทุนที่ต่ำกว่า
• ลดต้นทุนในทุกด้านของธุรกิจ
• เข้าถึงตลาดได้ทั่วโลก
นอกจากนี้ ยังมีผลการวิจัยของมหาวิยาลัยริเยกา ประเทศโครเอเชีย เรื่องการปรับปรุงความได้เปรียบทางการแข่งขันของเอสเอ็มอีจากการนำมาตรฐานระบบคุณภาพ (ISO 9001) ไปใช้ซึ่งระบุว่ามีประโยชน์ต่อองค์กรทั้งในด้านการตลาด ทางจิตวิทยา และทางการเงินด้วย ดังต่อไปนี้
ประโยชน์ทางการตลาด
• สื่อสารกับลูกค้าได้ดีขึ้น และเข้าใจความต้องการของลูกค้าได้ดีขึ้น
• เพิ่มความมั่นใจให้กับลูกค้า ทำให้ลูกค้ามีความพึงพอใจมากขึ้น และทำให้ผลิตภัณฑ์และบริการมีคุณภาพสูงขึ้น
ประโยชน์ทางจิตวิทยา
• การตีความขั้นตอนที่มีความชัดเจน และการศึกษาเป็นไปในเชิงป้องกัน
• ความพึงพอใจ แรงจูงใจ และความผูกพันของพนักงานจะมีมากขึ้นในทุกระดับ
• การปรับปรุงการสื่อสารภายใน และพนักงานได้รับการบอกกล่าวได้ดีขึ้น
• วัฒนธรรมองค์กรมีในระดับที่สูงขึ้น และมีการให้ความสำคัญกับคุณภาพมากขึ้น
ประโยชน์ทางการเงิน
• มีความเป็นไปได้ของการวิเคราะห์เชิงปริมาณสำหรับการดำเนินธุรกิจทั้งหมด
• ลดความจำเป็นในการควบคุมเพิ่มเติม
• ลดต้นทุนการผลิตที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบคุณภาพ และช่วยเพิ่มผลผลิต
• เพิ่มความสามารถในการคาดการณ์และลดข้อผิดพลาด รวมทั้งปรับปรุงความสามารถในการทำกำไร
โดยสรุป ผลการวิจัยดังกล่าวพบว่าการจัดการคุณภาพของเอสเอ็มอีมีส่วนทำให้สามารถแข่งขันได้ทั้งตลาดภายใน ประเทศและต่างประเทศรวมทั้งเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับการส่งออก ซึ่งมีส่วนสำคัญต่อการเจริญเติบโตของเอสเอ็มอีในตลาดต่างประเทศด้วย
ที่มา: 1. https://hrcak.srce.hr/file/323214
2. https://www.iso.org/iso-and-smes.html
Related posts
Tags: Efficiency, ISO, Productivity, Products, Quality, safety, Security, services, standard, Standardization
Recent Comments